พม.เรียกอาร์เอส สอบ นาธานโกงอายุเจ้าตัวลั่นไม่หนีหนี้

พม.เรียกอาร์เอส สอบ นาธานโกงอายุเจ้าตัวลั่นไม่หนีหนี้

พม.เรียกอาร์เอส สอบ นาธานโกงอายุเจ้าตัวลั่นไม่หนีหนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าของฉายา ลับ ลวง แหล ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องคดี ชี้ไม่เคยพูดจะสู้คดีจนถึงที่สุด พร้อมประนอม หนี้แม่บ้าน และจะหาเงินมาชดใช้ ระบุไม่สนวงการมายา ขอปักหลักอยู่เชียงคาน ทำอาชีพด้านการท่องเที่ยว-รีสอร์ท ขณะที่ พม. จ่อเรียก อาร์เอส อดีตต้นสังกัด สอบ ระบุ 4 ม.ค. สรุปผิดชัดเจน ด้านประธานคัดเลือกให้รับรางวัลเสียใจที่ผิดพลาด

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ร้านอาหารครัวโพธิ์ทอง ถนนชายโขง ริมแม่น้ำโขง ในเทศบาลตำบลเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย นาธาน โอร์มาน และนางพิศมัย ศรีกระบุตร แม่บุญธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าว นาธาน กล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ว่า เคยมาเชียงคานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยมา ถ่ายทำสารคดีท่องเที่ยว แต่ตอนนั้นยังไม่ ค่อยมีคนมาเที่ยว และยังไม่ทราบว่าแม่บุญธรรม เป็นคนเชียงคาน เพิ่งมารู้เมื่ออาทิตย์ ที่แล้ว เพราะแม่พามาที่เชียงคาน เพื่อมาเยี่ยมคุณยายที่ป่วย และตอนที่มาก็ไม่ได้ปิดบังหรือหลบซ่อน ตรงกันข้ามเปิดเผยตัว ตามปกติ ขี่จักรยาน ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตลาด ไปเที่ยวแก่งคุดคู้ โดยมีญาติทางฝ่ายแม่บุญ ธรรมหลายคน ผลัดเปลี่ยนกันมาพาออกตระเวนเที่ยว

จนกระทั่งมาถูกตำรวจจาก จ.อำนาจเจริญ นำหมายมาจับซึ่งตนคิดว่า มันเป็นเพียงคดีเล็กน้อย ยอมความกันได้ โดยตนยังมีความห่วงใย และคิดว่า นางสาวสมาน สุขเสริม แม่บ้านที่เป็นคู่กรณี ยังนับถือกันอยู่ เหมือนพี่น้องอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ทั้งนี้ ตนได้แสดงความห่วงใย โดยได้โอนเงินไปให้ 1,000 บาท ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุมเพียง 2 วัน และพร้อมกันนี้ตนอยากขอความเป็นธรรมด้วย ที่สื่อต่าง ๆ ไปออกข่าวว่า ตนขอสู้คดีจนถึงที่สุดนั้นไม่เป็นความจริง ตนอยากประนอมหนี้ และจะหาเงินมาชดใช้แทน เหมือนกับคู่กรณีรายอื่น ที่ถอนแจ้งความไปหมดแล้ว เนื่องจากได้มีการชำระไปเป็นบางส่วน

เจ้าของฉายา "ลับ ลวง แหล" กล่าว ต่อว่า ส่วนจะออกจากวงการมายาหรือไม่นั้น วงการมายามันไม่จีรังยั่งยืน ตนมีความตั้งใจว่า จะมาปักหลักทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการท่องเที่ยว เนื่องจาก อ.เชียงคาน เป็นอำเภอ ที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สงบ อากาศดี มีขนบธรรมเนียมประเพณี ที่งดงาม ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกับผู้มาเยือน ซึ่งตรงกับนิสัยที่รักธรรมชาติ รักความสงบ จึงคิดอยากจะทำรีสอร์ท เพราะแม่บุญธรรมมีที่ดินหลายแปลงติดริมแม่น้ำโขง และถ้ามีใครมาจ้างไปแสดงหรือร้องเพลง ก็จะมีการพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป

ต่อข้อถามที่ว่า ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะยึดรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 49 เนื่องจากปลอมแปลงเอกสารเรื่องการโกงอายุนั้น ตนขอไม่ตอบ เพราะเกรงว่า จะมีการพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นได้รับความเสียหายขอให้เป็นไปตามกระบวนการทุก เรื่อง และต่อไปจะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกแขนง หรือรายการทีวีช่องใดทั้งสิ้น เพราะอยากอยู่อย่างเงียบ ๆ และจะไปรายงานตัวที่ศาล จ.อำนาจเจริญ ตามที่ศาลมีคำสั่งมา

อีกด้านหนึ่ง วันเดียวกัน นายกิตติ สมานไทย ผอ.สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงความ คืบหน้าการดำเนินการเอาผิด "นาธาน โอร์ มาน" และต้นสังกัดที่โกงอายุ เพื่อรับรางวัลเยาวชนแห่งชาติ ปี 2549 ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ สท. กำลังตรวจสอบข้อมูลที่แน่ชัด ว่าต้นสังกัดที่ส่งชื่อนาธาน เข้ารับรางวัลเป็นบริษัทอาร์เอส จำกัดจริงหรือไม่ เนื่องจากในทาง การสอบสวนคงต้องเชิญบริษัทมาพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทางบริษัทคงไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงราชการ แต่อาจจะถูกนาธานหลอกใช้มากกว่า

"รางวัลนี้เราคัดเลือกมา 20 ปี ไม่เคยมีเรื่องมัวหมอง แต่เมื่อเกิดเหตุนาธาน ก็ ต้องดำเนินการให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งขั้นตอน ต่อไปถ้าตรวจพบชัดเจนว่าโกงอายุ เราก็ต้อง ริบรางวัลคืน และลงประกาศเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ ส่วนการดำเนินการเอาผิดทางอาญาข้อหาใช้เอกสารหลักฐานปลอมนั้น เพื่อความรอบคอบผมขอหารือกับฝ่ายกฎหมายก่อน และคงต้องพูดคุยกับคณะกรรมการคัดเลือกด้วย โดยวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ขอเวลาให้ เจ้าหน้าที่เตรียมข้อมูลแฟ้มประวัตินาธานให้พร้อมเพื่อจะได้นำเข้าที่ประชุม คณะกรรมการฯ ให้ได้ข้อสรุปในวันที่ 4 ม.ค.นี้" นายกิตติ กล่าว

ด้าน นายเกษม จันทร์น้อย ประธาน อนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกเยาวชนแห่งชาติ ปี 2549 สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนในการป้องกันปัญหาทางสังคม กล่าวว่า กรณีของนายนาธาน ตนเป็นประธานคัดเลือกให้รางวัลเอง ในช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิดหน่วย งานที่เสนอชื่อนาธานมาให้พิจารณาคือ บริษัทอาร์เอส ซึ่งได้ให้การรับรองความถูกต้องเกี่ยวกับประวัตินาธานมาแล้ว ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานได้กลั่นกรองตรวจสอบแฟ้มประวัติถึง 3 ชั้นและเห็นว่านาธานมีจุดที่ทำเรื่องสึนามิ กรรมการทุกคนจึงให้ผ่าน และเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่เห็นชอบ

"เราพิจารณาด้วยความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้ทำอะไรถึงขนาดที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ วันนี้ในข้อเท็จจริงยังไม่รู้ว่าอายุเกินตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ตอนที่เขาส่งประวัติมา บอกว่าอายุ 23 ปี แต่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ทุกคนก็ไม่สบายใจ และคิดว่านาธานไม่น่าทำอย่างนี้เลย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่เชื่อว่าบริษัทอาร์เอสจะหลอกเรา จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับเขา เพราะตามหลักฐานที่มี ดูแล้วนาธานอาจจะหลอกบริษัทให้ส่งชื่อมาก็ได้ ยอมรับเราเสียใจ และเห็นด้วยที่ต้องมีการลงโทษไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้ต่อไปการทำงานคงต้องรอบคอบมากขึ้น ต้องมีการตรวจบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน เพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" นายเกษม กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook