สธ.ชี้หน้าหนาว เป็นฤดูแพร่โรคพิษสุนัขบ้า เตือนประชาชนหากถูกสุนัขบ้ากัด ต้องพบแพทย์ด่วน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระวังโรคพิษสุนัขบ้าในหน้าหนาว เพราะขณะนี้ไม่มียารักษา โดยในปี 2552 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 24 ราย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า(Rabies)ว่า จากการประเมินในปี 2552 พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2551 และจนถึงขณะนี้ทั่วประเทศพบผู้ป่วย 24 รายใน 10 จังหวัด และขณะนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเข้าใจว่า โรคพิษสุนัขบ้าจะเกิดในฤดูร้อนเท่านั้น แท้จริงแล้วพบได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูผสมพันธุ์ สุนัขตัวผู้จะได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากการต่อสู้แย่งชิงตัวเมีย เชื้อจะออกมาทางน้ำลาย และติดต่อสู่คนโดยการกัด ข่วนหรือเลีย คนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการป่วยประมาณ 4 วันจนถึง 3-4 ปีก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ปี และจะเสียชีวิตทุกราย เพราะโรคนี้ไม่มียารักษา สำหรับอาการของสุนัขบ้า มักหลบซุกตัวในมุมมืด กระวนกระวาย หงุดหงิด ดุร้าย ในระยะสุดท้ายจะมีขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล วิ่งไม่มีจุดหมาย เป็นอัมพาตและตายในที่สุด ด้านนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือ เลี้ยงสุนัขอย่างรับผิดชอบ นำสุนัขที่เลี้ยงรับการฉีดวัคซีน ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกสุนัขกัด หากถูกกัดให้กักสุนัขไว้เพื่อสังเกตอาการ รีบล้างแผลใส่ยา และพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนจนครบ โดยมีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเฉลี่ยปีละกว่า 400,000 ราย