เขียว-แดง พร้อมกัน! นักท่องเที่ยวต่างชาติ งงไฟแดง ถูกรถพุ่งชนกลางสี่แยกเสียชีวิต

 

เมื่อเวลา  21.00 น. วันที่ 25 พฤษภาคม  ร.ต.อ วิรุฬห์กิจ ตันตระกูล รอง  สว.สอบสวน สภ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา  ได้รับแจ้ง เหตุมี นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ขี่รถจักรยาน ถูกรถยนต์เก๋งชนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนโรจนะ ขาเข้า บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจรคลองมะขามเรียง ต.ประตูชัย  อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสาน  กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การช่วยเหลือ    

เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บเป็นหญิง ชาวต่างชาติหญิง  ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ แขนขาหัด มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก จากนั้นเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา   แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บอาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถจักรยาน ให้นักท่องเที่ยวเช่าล้มอยู่กลางถนนสภาพพังยับเยิน  ห่างออกไปพบ รถยนต์เก๋ง โตโยต้า  อัลติส สีขาว ห สภาพด้านหน้ารถ มีร่องรอย ชนพังเสียหายกระจกหน้าแตก

เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ทราบชื่อ   นส.คามีเลีย จีน กาวาเดน อายุ 26 ปี ชาวฝรั่งเศส  

มี นายสถาปนา  อายุ 42 ปี เป็นคนขับรถยนต์เก๋ง  อยู่ในอาการตกใจ  ให้ข้อมูลกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า  หลังเลิกงานอยู่ระหว่างขับรถกลับบ้านพัก   มาถึงใกล้กับที่เกิดเหตุเป็นแยกสัญญาณไฟแดง  จังหวะนั้นเป็นสัญญาณไฟสีเขียว ให้รถทางตรงและสัญญาณไฟแดงให้รถเลี้ยวขวาหยุด ตนจะตรงไปจึงขับผ่าน เพื่อตรงไป

เป็นจังหวะเดียวกับ นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติหญิง 2 คน  กำลังนั่งคร่อมจักรยานอยู่ มากันคนละคัน อยู่ทางริมถนนด้านซ้าย แล้วขี่ ข้ามฝั่งมา ที่เกาะกลาง  ตนเองเบรกไม่ทันจึงพุ่งชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต  ตนเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพูดอะไรไม่ออก และ ต้องขอ โทษกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน   นส.ธารา นิโค สกูรี่  อายุ 34  ปี  ชาวอเมริกานักเที่ยวที่ขี่จักรยานมาด้วยกัน  ในเบื้องต้นทราบว่า   นส.ธารา นิโค สกูรี่   และ นส.คามีเลีย จีน กาวาเดน   ผู้เสียชีวิต  ได้รู้จักกัน ที่กรุงเทพมหานคร  

จากนั้น ชักชวนกันมาเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม โดยพักที่เกสเฮ้าส์แห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา  ก่อนเกิดเหตุได้เช่ารถจักรยาน ขี่ท่องเที่ยว ตามโบราณสถานและวัด  พร้อมกับรับประทานอาหารเย็นกำลังจะกลับที่พัก 

มาถึงที่เกิดเหตุ  เป็นสี่แยกสัญญาณไฟ จะข้ามแยกเพื่อกลับที่พักสังเกตเห็น สัญญาณไฟแดงและมีรถจอดติดไฟแดงอยู่ ทั้งสองฝั่งถนน  จึงได้ขี่จักรยานข้ามถนน เป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์เก๋ง ขับมาพอดี จึงพุ่งชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต    

เบื้องต้นได้นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และต้องติดต่อสถานทูต ให้ประสานญาติมาติดต่อขอรับศพและตั้งข้อกล่าวหาผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ทางด้านนายชัยพล อายุ 51 ปี  เจ้าของเกตเฮาส์  เล่าว่า นักท่องเที่ยว หญิง ชาวต่างชาติ ทั้งสองคน ได้มาเปิดห้องพัก  พร้อมกับได้เช่าจักรยานเพื่อออกไปท่องเที่ยว ตนจึงให้นามบัตร ติดตัวไปและบอกว่าถ้ามีอะไรก็ให้โทรติดต่อเบอร์นี้

พอช่วงเวลา 21.00 น. ตนเห็นว่า นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติทั้งสองคนยังไม่กลับมาจึงเป็นห่วงแต่ก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหนสักพักก็มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยโทรศัพท์มาแจ้งว่า นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิต ตนตกใจมากและรีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุทันที  เสียใจ กับนักท่องเที่ยวเพราะถือว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวบ้านเราและสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

อยากฝากบอกกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ พฤติกรรมการขับรถเร็ว สัญญาณไฟจราจร ของเรายังไม่ถูกต้องตามที่ควร จากกรณีนี้รถเลี้ยว ขวาไฟแดงส่วนรถที่ตรงไปเป็นไฟเขียว เปิดพร้อมกัน ทำให้ชาวต่างชาติไม่คุ้นเคยกับไฟบ้านเรา พอเขาเห็นสัญญาณไฟแดงเขาก็ข้ามเลย

จึงอยากให้ปรับปรุงหรือมีสัญญาณไฟคนข้ามถนน ให้ชัดเจนกว่านี้ไม่ใช่ให้คนมาวัดดวงเสี่ยงกับสัญญาณไฟแบบนี้ และถ้านักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนนั้นมีแผนว่าในวันพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ต่อแต่ต้องมาจบเสียชีวิตก่อน