ส.ส.ปชป.บีบนายกฯปรับ รมต.ไร้ผลงาน

ส.ส.ปชป.บีบนายกฯปรับ รมต.ไร้ผลงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ศาลกัมพูชาตัดสิน!ชะตากรรม''ศิวรักษ์''

ลุ้นกันวันนี้ศาลกัมพูชาตัดสินวิศวกรไทยแม่บินให้กำลังใจถึงถิ่นเผยทำใจไว้แล้วไม่ว่าจะเจอข่าวดีหรือร้าย ด้าน เด็จพี่ บอกพรรคเตรียมแผนบีไว้แล้วด้วยการขออภัยโทษ พร้อมประสาน แม้ว คุย ฮุนเซน ช่วยอีกทาง ขณะที่ประชาธิปัตย์ซัดกันเละ ส.ส.หน้าใหม่ไล่ฟัดรัฐมนตรีข้าว นอกนา จวก วีระชัย ไร้ผลงาน 1 ปีก็ เพียงพอกับการเป็นนายทุนให้พรรคแล้ว แถมลามถึง เสธ.หนั่น ซัดตำแหน่ง รมต. ไม่ใช่สมบัติผลัดกันชม ถ้าไม่เอาก็คืนโควตามา ด้านเพื่อไทยชี้รัฐบาลทำทุกทางเพื่อลากยาว รู้ดีเลือกตั้งใหม่ไปไม่รอด

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่สนามบิน สุวรรณภูมิ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม และนายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ มารดาและน้องชายของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัว พร้อมด้วย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ออกเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อรอฟังการพิจารณาคดีในวันที่ 8 ธ.ค. โดยมีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาส่ง

นางสิมารักษ์ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องว่า ตนทำใจไว้แล้วไม่ว่าจะออกมาในทางดีหรือร้าย แต่ก็มีความหวังลึก ๆ ว่าผลการตัดสินจะออกมาในทางที่ดี ส่วนการเปลี่ยนตัวทนายความกระทรวงการต่าง ประเทศ ตนแค่ต้องการให้เรื่องจบโดยเร็ว การเดินทางไปครั้งนี้ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปมอบให้นายศิวรักษ์เพื่อเป็นกำลังใจด้วย

ด้าน น.ส.มธุรพจนากล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนตัวทนายความกระทรวงการต่างประเทศยังคงให้ความช่วยเหลือเช่นเดิม เพราะถือเป็นหน้าที่ และได้นัดนายเขียว สัมโบ ทนายคนใหม่ให้พบที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เพื่อประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคดีออกมาเป็นด้านลบ ขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษจะเป็นอย่างไร น.ส. มธุรพจนากล่าวว่า ต้องหารือกับทนายความก่อน และได้ประสานไปยังกรมราชทัณฑ์ของกัมพูชาเพื่อขอให้นางสิมารักษ์เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ด้วย

ด้านนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ตนได้ฝากพระรอดไปมอบให้นายศิวรักษ์เพื่อช่วยคุ้มครองให้ได้รอดกลับมา และได้นำร่างหนังสือที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ทำถึงสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เนื้อหาขอพระราชทานอภัยโทษมาให้นางสิมารักษ์ดู หากผลคดีเป็นไปในทางลบจะได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการยื่นถึงสมเด็จฮุนเซน นอกจากนี้นางสิมารักษ์ยังได้ขอให้ตนประสาน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยอีกทางหนึ่งด้วย

น.ส.วิมล คิดชอบ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีสมเด็จฮุนเซนให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กัมพูชา โดยระบุให้รัฐบาลไทยส่งเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศกัมพูชาว่า ข่าวดังกล่าวได้สั่งการให้สถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ส่งรายละเอียดคำให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฮุนเซนมาให้กระทรวงพิจารณาคำสัมภาษณ์ทั้งหมดว่ามีเนื้อหาทั้งหมดอย่างไร พูดที่ไหนเมื่อไหร่

จะต้องพิจารณาคำให้สัมภาษณ์อย่างละเอียด เพราะวรรคหนึ่งกับวรรคสองอาจจะมีความหมายต่างกัน เรื่องนี้ละเอียดอ่อนเกี่ยวพันกับหลายกรณีที่เป็นข้อกังวลของทั้ง 2 ประเทศ หากคำสัมภาษณ์มีแนวโน้มที่ดีก็ต้องมองเรื่องความสัมพันธ์ ส่วนจะส่งทูตกลับหรือไม่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะพิจารณา น.ส.วิมลกล่าว

ส่วนข่าวการปรับ ครม.และความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ควรจะปล่อยให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ และรัฐมนตรีทุกคนก็ควรยอมรับ ผู้เล่นคนไหนที่เล่นไม่ดีก็ควรจะเปลี่ยนตัวออก ส่วนตัวเห็นว่าคนที่ควรจะพิจารณาตัวเองได้แก่นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เพราะไม่มีผลงานอะไรเลย แม้จะมาจากกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคก็ตาม เวลา 1 ปีน่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนรัฐมนตรีอีกคนที่ผลงานเงียบมาก ได้แก่ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม

นายบุญยอดกล่าวต่อว่า ไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศยกตำแหน่งให้กับนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ใช่สมบัติผลัดกันชม ถ้าเบื่อก็คืนโควตารองนายกฯ มาให้กับพรรค ส่วนนายศิริวัฒน์นั้นขอถามว่า นอกจากอายุ 36 ปีแล้วเคยทำอะไรให้กับใครบ้าง

นายบุญยอดยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 ธ.ค. ตนจะเปิดเผยข้อมูลการลงมติร่างกฎหมายตลอดการประชุม 4 เดือน พบว่าน่าตกใจมากนอกจาก ส.ส.กว่าครึ่งจะสอบไม่ผ่านแล้ว มี ส.ส.จำนวน 8 คนจากทั้งหมด 473 คน ที่ไม่เคยลงมติร่างกฎหมายฉบับใดเลยแม้แต่ครั้งเดียว พบว่าเป็นสมาชิกตระกูลเทียนทองถึง 3 คนด้วยกัน ส่วน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลงมติน้อยที่สุดได้แก่นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี ส่วน ครม.คนที่ลงมติมากที่สุดเป็นนายอภิสิทธิ์ถึง 70 ครั้ง แตกต่างกับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ลงคะแนนเพียง 30 กว่าครั้งเท่านั้น

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส. พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวทวงสัญญาการปรับ ครม.ว่า ตอนจัดตั้ง ครม. เมื่อเดือน ธ.ค. 51 นั้น ตนสงสัยว่าทำไมนายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.สำนักนายกฯ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคได้เป็นรัฐมนตรีอย่างไร ขณะที่ตนเป็น ครม.เงาและมีตำแหน่ง รมต. สำนักนายกฯ ในโควตาของพรรคอยู่ แต่ นายวีระชัยกลับได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรี ตนก็ไปถามนายกฯ ว่าเข้ามาได้อย่างไร เมื่อนายกฯ ชี้แจงเหตุผลก็เข้าใจ ท่านเป็นแม่ทัพเราก็ต้องฟังคำสั่ง ทั้งหมดจึงอยู่ที่นายกฯ ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นตนไม่ได้ติดใจอะไร

แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนาเปิดเผยว่า หาก พล.ต.สนั่นลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ จริง ตำแหน่งนี้ยังต้องเป็นโควตาของพรรคชาติไทยพัฒนาเช่นเดิม โดยอาจให้รัฐมนตรีของพรรคคนใดคนหนึ่งไปควบตำแหน่งรองนายกฯ ส่วนกรณีที่พล.ต.สนั่นต้องการให้นายศิริวัฒน์เข้ามาเป็น รมช.ในโควตาของ พล.ต.สนั่นนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการเจรจากับพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ของรัฐบาลว่า โพลที่ออกมาล้วนสนับสนุนให้ปรับ เพราะ 1 ปีที่ผ่านมาแก้ปัญหาไม่ได้ เศรษฐกิจตกต่ำ อาชญากรรมบานเป็นดอกเห็ด การทุจริตเต็มไปหมด อย่ากลัวว่าปรับ ครม.แล้วจะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรค เพราะรัฐมนตรีบางคนต้องปรับจริง ๆ เพราะเหมือนไม่มีอยู่ในโลก

รัฐบาลชุดนี้พยายามจะอยู่ให้ยาวที่สุด และไม่มีความคิดเรื่องการยุบสภา นอกจากจะมีเหตุการณ์พิเศษอย่างอำนาจนอกระบบจะเข้ามาแทรกแซง หรือไม่หากเข้าตาจนก็จะยุบสภา รัฐบาลตอนนี้เหมือนผีเน่ากับโลงผุ ถ้าเลือกตั้งวันนี้เสียงจะหายไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยจะกลายเป็นพรรคต่ำ 10 ตอนนี้รัฐบาลอยู่ได้เพราะตัวช่วย มีแต่เส้นไม่มีน้ำยา อยากให้ไปเดินตลาดสดตอนเช้าตลาดนัดตอนเย็นบ้างจะได้รู้ว่าชาวบ้านเขาคิดกันอย่างไร นายพร้อมพงศ์กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook