''สมเกียรติ''ติง สกสค.เลิกอุ้มผู้บริหารถูกสอบ

ชี้เหตุผลยื้อคดีฟังไม่ขึ้นเข้าข่ายละเว้นแนะ''จุรินทร์''โชว์ผลงานสร้างโปร่งใส

ตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จัดทำโครงการจัดสร้างวัตถุมงคลพระพุทธโสธรรุ่น เจริญสุข ได้สรุปว่าเป็นการกระทำที่มิชอบ เพราะมีการแอบอ้างเบื้องสูง และนำชื่อและตราสัญลักษณ์ของ มหาวิทยา ลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) และสถาบันพระมหากษัตริย์ไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สกสค.5 คนและเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งเกี่ยวข้อง แต่คณะกรรมการ สกสค. ได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยอ้างว่า ผู้ที่ถูกพาดพิงยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงนั้น นายสมเกียรติ พงษ์ ไพบูลย์ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันกับ มมร. และพระพุทธศาสนา ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่ ดังนั้นจึงเลยขั้นตอนที่จะยืดเวลาตั้งกรรมการสืบสวนเพิ่มเพื่อช่วยเหลือกันแล้ว อีกทั้งข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงระบุมาก็มีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นคำแอบอ้าง มมร. การจัดทำพิธีพุทธาภิเษก ดังนั้นการที่คณะกรรมการ สกสค. ยื้อเวลาเรื่องนี้จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตนยังไม่เห็นว่าจะมีข้อมูลหรือประเด็นใหม่ที่จะต้องตั้งกรรมการสืบสวนเพิ่มแต่อย่างใด

ผมเห็นว่าไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ไป ควรให้เป็นเรื่องของ กระบวนการจะดีกว่า และอยากเรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ หยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะครูเฝ้ารอเรื่องนี้กันอยู่โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทุจริตในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งในส่วนของ ศธ. น่าจะเป็นคดีแรกที่หยิบยกมาดำเนินการจึงจะต้องออกมาแถลงผลในเรื่องนี้เลยว่าจะดำเนินการอะไรต่อ เพราะใกล้ครบ 1 ปีของรัฐบาลแล้ว นายสมเกียรติ กล่าวและว่า เรื่องนี้หากมีเหตุผลไม่เพียงพอสังคมก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งตนจะทำเรื่องให้ กมธ. การศึกษา เรียกเรื่องนี้มาพิจารณา ทั้งนี้ที่ระบุว่าเหตุผลของการตั้งกรรมการสืบสวนเพิ่มเพราะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้โต้แย้งนั้น ตนคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงคงไม่สามารถไปกลั่นแกล้งคนที่ไม่ได้กระทำผิดให้มีความผิดได้.