''ปาท่องโก๋'' พลิกชีวิตผู้ติดเชื้อเอดส์

''ปาท่องโก๋'' พลิกชีวิตผู้ติดเชื้อเอดส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิไฟเซอร์ ประเทศไทย และ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (พีดีเอ) พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอดส์ให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิภายใต้แนวคิดใหม่ โครงการปา ท่องโก๋ มอบโอกาสการประกอบอาชีพผ่านการกู้เงินยืมดอกเบี้ยระยะต่ำคู่กับผู้มีสุขภาพดี เพื่อให้ผู้ติดเชื้อมีรายได้มั่นคงและพึ่งตนเองได้ ภายหลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือ 10 จังหวัดทั่วประเทศ กว่า 624 คู่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการปาท่องโก๋ต้นแบบที่ จ.เชียงราย โครงการเน้นสร้างความยั่งยืนแก่กองทุนของโครงการฯ ผ่านการฝากเงินลงทุนกับ ธนาคารพัฒนาหมู่บ้าน ซึ่งมีอัตราการคืนเงินกู้สูงร้อยละ 90

กล้วยไม้ นุชนิยม ผู้จัด การฝ่ายองค์กรสัมพันธ์บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า โครงการปาท่องโก๋มี 3 เฟส ปี 2547-2549 เป็นโครงการระยะแรกที่มุ่งเน้นให้ผู้ติดเชื้อมีโอกาส พัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ได้ก่อน ส่วนเฟส 2 ปี 2550-2551 สมาชิกโครงการปาท่องโก๋เริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว จึงเน้นให้ทำกิจกรรมร่วมกันในชุมชน และเข้าสู่เฟส 3 ปี 2552 เป็นต้นไปจะมีการปรับให้สมาชิกที่ปรับตัวอยู่ในสังคม ได้แล้ว สามารถอยู่อย่างยั่งยืนและช่วยสร้าง ประโยชน์แก่ชุมชนได้ด้วย

ผอ.ฝ่ายสุขภาพชุมชน สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (พีดีเอ) อุไร หอมทวี กล่าา ภูมิใจมากที่ได้ทำงานนี้ ได้เห็นสมาชิกเติบโต แข็งแรง มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อดำเนินโครงการครบรอบปีให้สมาชิก เป็นผู้ประเมินผลชีวิตความเป็นอยู่จากบันไดชีวิตของตัวเอง 4 ด้าน ได้แก่ สุขภาพกาย สุขภาพจิต สถานภาพทางสังคม และ สถานภาพทางเศรษฐกิจ จาก 10 ขั้น ตั้งแต่ 0-10 และพบว่า ก่อนติดเชื้อจากระดับ 5-6 หลังติดเชื้อถอยเหลือเพียงระดับ 1 เพราะรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า กระทั่งเข้าร่วมโครงการได้มีงานทำ มีรายได้ มีคู่คิดปาท่องโก๋ ทำให้สมาชิกมีความมั่นใจขึ้นมาถึงระดับ 4-5 บางคนอยู่ในระดับ 6-7 เพราะมีอาชีพมีรายได้และศักดิ์ศรี เป็นที่พึ่งของครอบครัว ในขณะที่บางคนคาดหวังถึงระดับ 9-10

วรวรรณ จันทร์มโน หัวหน้ากลุ่มปาท่องโก๋บ้านสันกอง ต.แม่ไร่ จ.เชียงราย เผยว่า บ้านสันกอง หมู่ 7 มีสมาชิกปาท่องโก๋ 7 คู่ มีเงินสนับสนุน 130,000 บาท คู่บัดดี้ต้องเป็นสมาชิกธนาคารหมู่บ้าน เป็นผู้มีการงานมั่นคง สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อได้ และต้องมีความรู้เรื่องโรคเอดส์ดี หลังได้คู่บัดดี้ต้องทำสัญญาธุรกรรมว่าจะนำเงินไปทำอะไรร่วมกัน ก่อนให้กู้และนำเงินไปแบ่งครึ่งโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ต่อเดือน ให้ส่งแต่ดอกเบี้ย ทุกเดือน และแบ่งการส่งเงินต้นออกเป็น 4 งวด โดยดอกเบี้ยจากโครงการนี้นำไปใช้ทำกิจกรรมร่วมกันในหมู่สมาชิกปาท่องโก๋

น.ส.สุขแก้ว แก้วมงคล อายุ 48 ปี หนึ่งในชาวบ้านสันกองที่ร่วมเป็นคู่ปาท่องโก๋กับ นางอ้อย ผู้ติดเชื้อ กล่าวว่า เคยกลัวผู้ติดเชื้อเอดส์ เนื่องจากเพื่อนสนิทเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ จนเข้ารับฟังการอบรมจากสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนจึงเปลี่ยนทัศนคติ จริง ๆ ไม่เดือดร้อนทางการเงิน แต่สนิทกับผู้ติดเชื้อจึงจับคู่กัน โดยกู้เงินลงทุนขายลอตเตอรี่ และคอยให้ความช่วยเหลือ นำรถพาไปส่งโรงพยาบาลและนำเงินฝากธนาคารให้ลูกทั้งสองคนของผู้ติดเชื้อทุกเดือน

ด้านคู่ปาท่องโก๋ นางอ้อย (นามสมมุติ) วัย 40 ปี กล่าวว่า ติดเชื้อจากสามีตั้งแต่ปี 2535 ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว เคยท้อแท้มาก ไปไหนถูกมองอย่างรังเกียจไม่มีกำลังใจ แต่ตอนนี้ไม่ถูกรังเกียจแล้วเพราะโครงการปาท่องโก๋มาช่วยเหลือ คนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้ออยู่ร่วมกันได้ทำให้มีพลังขึ้นมาก ทุกวันนี้ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอยู่ที่โรงงานเย็บกระเป๋า พอมีกินมีใช้และได้เงินส่วนแบ่งกำไรจาก การขายลอตเตอรี่จากคู่บัดดี้ด้วย.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook