อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ กรณีสารอินทรีย์ระเหยในอากาศที่มาบตาพุดเกิน 30 เท่า ตามที่เอ็นจีโอ ตรวจสอบน

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ กรณีสารอินทรีย์ระเหยในอากาศที่มาบตาพุดเกิน 30 เท่า ตามที่เอ็นจีโอ ตรวจสอบน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุ กรณีสารอินทรีย์ระเหยในอากาศที่มาบตาพุดเกิน 30 เท่า ตามที่เอ็นจีโอ ตรวจสอบนั้นคลาดเคลื่อน เตรียมออกรายงานสถานการณ์มลพิษมาบตาพุดฉบับพิเศษปลายปีนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษหรือ คพ. กล่าวว่า กรณีที่ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรอิสระหรือ เอ็นจีโอ นำเอาเครื่องมือตรวจสอบสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ตรวจวัดปริมาณสารอินทรีย์ระเหยในอากาศที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยพบพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณสารอินทรีย์ระเหยในอากาศหรือ VOCs เกินมาตรฐาน 30 เท่า โดยมี 1,3, บิวทาไดอีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง สูงกว่าค่าการเฝ้าระวังของ คพ. กว่า 33 เท่านั้น ที่ตนเองไม่ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ เนื่องจากต้องการรวบรวมข้อมูลก่อน เพื่อความถูกต้อง ก่อนที่จะอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ตรวจวัดอากาศที่ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศ ใช้นั้นพบว่า ข้อจำกัดของเครื่องมือดังกล่าว คือ ใช้วัดการรั่วไหลของ VOCs ไม่ใช่การติดตามตรวจสอบ วัดตามจุดรั่วซึมของก๊าซ เพื่อค้นหาปริมาณของก๊าซ โดยไม่สามารถวัดออกมาแล้วบอกว่า ประชาชนบริเวณนั้นจะมีปัญหาอย่างไร แต่ต้องวัดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วนำมาเปรียบเทียบกับค่าเฝ้าระวังของ คพ. นอกจากนี้ ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศ ยังตั้งเครื่องมือไว้ในรถ และวิ่งไปเรื่อยๆ ทำให้ค่าที่วัดออกมาเป็นจุดๆ หนึ่ง ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ทำให้ข้อมูลที่ได้คลาดเคลื่อน ซึ่งจากกรณีปัญหามลพิษในมาบตาพุด ทั้งนี้ ทาง คพ. ได้เตรียมจัดทำรายงานสถานการณ์ฉบับพิเศษเป็นการเฉพาะแล้ว คาดว่าจะออกเผยแพร่ได้ปลายปีนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook