หงส์ อาการโคม่าหลังเจ๊า ลียง 1-1

ลิเวอร์พูล อาการโคม่าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังถูก ลียง ตีเสมอ 1-1 นาทีสุดท้ายโอกาสเข้ารอบริบหรี่

หงส์แดง ลิเวอร์พูล อาการโคม่าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังถูก ลียง ตีเสมอ 1-1 นาทีสุดท้ายโอกาสเข้ารอบริบหรี่ ขณะที่ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ยังฟอร์มสด ถล่ม อาแซด อัล์คมาร์ 4-1 ด้าน เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา ฝืดไปเสมอ รูบิน คาซาน 0-0 และ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน พลิกกลับมาชนะ 2-1 ขณะที่ศึกพรีเมียร์ชิพ เวสต์แฮม แบ่งแต้ม แอสตัน วิลล่า 1-1

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน กลุ่ม อี "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกไปเยือน ลียง ที่ฝรั่งเศสโดยขาดผู้เล่นตัวหลักที่บาดเจ็บไปหลายคนรวมทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เกล็น จอห์นสัน แต่ยังได้ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ฟิตลงสนามเป็นตัวจริง ซึ่งเกมในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตั้งหลักได้เร็วนาทีที่ 12 ได้ลุ้นครั้งแรกจากการยิงในเขตโทษขอ ตอร์เรส ทำให้ ฮูโก้ ยอริส ต้องล้มตัวขวางบอลเอาไว้หวุดหวิด

จากนั้นโอกาสแบบจะๆก็ยังเป็นของทีมเยือนอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 17 ยอริส ต้องลอยตัวปัดลูกยิงของ เดิร์ค เคาท์ ข้ามคานไป และนาทีที่ 28 อังเดร โวโรนิน ได้บอลหลุดเดี่ยวไปยิง แต่ก็ยิงไปติด ยอริส อีกครั้งจบครึ่งแรกจึงยังเสมอกันอยู่ 0-0 ก่อนที่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองอีกครั้งนาทีที่ 69 เมื่อ ลูคัส หลุดไปยิงในเขตโทษแต่ก็ติด ยอริส เหมือนเดิม เคาท์ พยายามจะซ้ำแต่ก็เบาไป อย่างไรก็ตามนาทีที่ 83 หงส์แดง มาได้ประตูที่รอคอยจากเกมโต้กลับ ไรอัน บาเบิล สับไกยิงที่หน้าเขตโทษเต็มเท้าบอลพุ่งเสียบคานอย่างสวยงามเป็น 1-0 แต่แล้วนาทีสุดท้ายของเกมเจ้าถิ่นมาตีเสมอได้จากการหลุดไปยิงของ ลิซานโดร โลเปซ จบเกมเสมอกัน 1-1 ทำให้โอกาสเข้ารอบของลิเวอร์พูลลำบากอย่างหนัก

อีกคู่ของกลุ่มนี้ ฟิออเรนตินา ของอิตาลี ชนะ เดเบรเซน จากฮังการี 5-2 โดยได้ประตูจาก อาเดรียน มูตู นาทีที่ 14, ดาริโอ ไดเนลลี นาทีที่ 52, ริคาร์โด มอนโตลิโว นาทีที่ 59, มาร์โก มาร์คิโอนนี นาทีที่ 61 และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน นาทีที่ 74 ส่วนทีมเยือนได้จาก เกอร์เกลี รูดอล์ฟ นาทีที่ 38 กับ อดาโม คูลิบาลี นาทีที่ 70 อันดับคะแนนกลุ่มนี้ ลียง 10 แต้ม, ฟิออเรนตินา 9 แต้ม, ลิเวอร์พูล 4 แต้ม และ เดเบรเซน ไม่มีแต้ม ทำให้ ลียง ได้เข้ารอบแน่นอนแล้ว

กลุ่ม เอฟ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ไปเยือน นูบิน คาซาน ของรัสเซีย และน่าจะได้ประตูนำตั้งแต่ 2 นาทีแรกเมื่อ ซาบี เอร์นันเดซ แทงบอลให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงผ่านมือ เซอร์เก ไรซีคอฟ ไปแล้วแต่แฉลบเสาออกไป จากนั้นทีมเยือนก็บุกเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยิงไม่ได้ จนนาทีที่ 79 โอกาสเป็นของเจ้าถิ่นบ้างจากการยิงของ อเล็กซานเดอร์ บูคารอฟ แต่ บิคตอร์ บัลเดส เซฟเอาไว้ได้จบเกมจึงเสมอกันไป 0-0

อีกคู่ของกลุ่มนี้ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน บุกไปแซงชนะ ดินาโม เคียฟ 2-1 หลัง อังเดร เชฟเชนโก้ ยิงให้เจ้าถิ่นนำนาทีที่ 21 ก่อนทีมเยือนมาได้ 2 ประตูรวดจาก ดีเอโก้ มิลิโต้ นาทีที่ 86 และ เวสลีย์ สไนย์เดอร์ นาทีที่ 89 อันดับคะแนนกลุ่มนี้ อินเตอร์ 6 แต้ม, รูบิน กับ บาร์เซโลนา 5 แต้ม และ ดินาโม เคียฟ 4 แต้ม

กลุ่ม จี เซบีญ่า เสมอ สตุ๊ตการ์ท 1-1 และ ยูริเรีย เสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 1-1 ทำให้ เซบีญ่า เข้ารอบแน่นอนแล้วจากการมี 10 แต้ม ตามมาด้วย ยูนิเรีย 5 แต้ม และ สตุ๊ตการ์ท กับ เรนเจอร์ส 3 แต้ม
"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ลงสนามในกลุ่ม เอช ด้วยการเปิดเอมิเรสต์ รับการมาเยือนของ อาแซด อัล์คมาร์ จากฮอลแลนด์ ซึ่ง อาร์เซนอล เริ่มครองเกมได้ตั้งแต่ต้น นาทีที่ 24 ได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ วิลเลี่ยม กัลลาส์ ขึ้นสูงมาผ่านบอลให้ เชส ฟาเบรกาส ลากตัดจากทางขวาก่อนยิงเข้าทางเสาแรก และก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 3 นาทีเจ้าถิ่นหนีห่างไปเมื่อ อังเดร อาร์ชาวิน แทงบอลให้ ซาเมียร์ นาสรี หลุดไปยิงสู่ก้นตาข่ายจบครึ่งแรก อาร์เซนอลนำ 2-0

ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้ 7 นาที อาร์เซนอล ได้ประตูเพิ่มอีกโดย อาร์ชาวิน แทงบอลทะลุขึ้นทางขวาให้ ฟาเบรกาส หลุดไปแปเข้าไปง่ายๆเป็น 3-0 ตามด้วยนาทีที่ 72 อาร์ชาวิน ตอกส้นให้ อาบู ดิยาร์บี หลุดเดี่ยวไปยิงเป็น 4-0 ก่อนที่ อาแซด จะมาตีไข่แตกได้จาก เจอร์เมน เลนส์ นาทีที่ 82 อาร์เซนอล จึงชนะไป 4-1 อีกคู่ของกลุ่มนี้ สตองดาร์ด ลีแอช ชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 อันดับคะแนนกลุ่มนี้ อาร์เซนอล 10 แต้ม, โอลิมเปียกอส 6 แต้ม, สตองดาร์ด 4 แต้ม และ อาแซด 2 แต้ม

ด้านศึกพรีเมียร์ชิพ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม เสมอกับ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า ไป 1-1 โดยเจ้าถิ่นนำไปก่อนจากจุดโทษของ มาร์ค โนเบิล นาทีที่ 45 แต่ทีมเยือนตีเสมอได้จาก แอชลีย์ ยังนาทีที่ 56 ทำให้ เวสต์แฮม มี 8 แต้มขึ้นมาอยู่อันดับ 18 ขณะที่ แอสตัน วิลล่า มี 19 แต้มขึ้นมาอยู่ที่ 5