10 สุดยอดทีมไม่ผ่านคัดเลือกบอลโลก

10 สุดยอดทีมไม่ผ่านคัดเลือกบอลโลก

10 สุดยอดทีมไม่ผ่านคัดเลือกบอลโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขณะนี้ศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก กำลังจะแข่งขันนัดสุดท้ายกันในวันพุธนี้ ซึ่งรอบคัดเลือกหนนี้ ถือว่ามีชาติใหญ่ ๆ หลายชาติโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน และกำลังลุ้นกันตัวโก่งว่าจะได้ไปลุยแอฟริกาใต้ ในปีหน้าหรือไม่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าน่าจะต้องมีชาติใหญ่อย่างน้อย 1-2 ทีมที่จะไม่ได้ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010
  
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง ก็อย่าได้ตกใจไป เพราะในอดีต มีชาติใหญ่หลายชาติ เคยพลาดพลั้งเช่นนี้มาแล้ว ซึ่งเว็บไซต์โกลดอทคอม ได้รวบรวมและจัดเป็น 10 อันดับของชาติยักษ์ใหญ่ที่เคยตกรอบฟุตบอลโลก แต่จะมีชาติใดบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
  
10. อังกฤษ ปี ค.ศ. 1974
ช่วงทศวรรษ 70 ถือเป็นยุคมืดของทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากพวกเขาประสบความล้มเหลวไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลรายการสำคัญๆ ได้เลยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970-1980 แต่ที่คนจดจำได้มากที่สุดคือในศึกฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 1974 ที่เยอรมนีตะวันตกเป็นเจ้าภาพ อังกฤษขอแค่ชนะโปแลนด์ให้ได้ในนัดสุดท้ายก็จะได้ไป แต่ขุนพล “ทรีไลออนส์” ก็ทำได้แค่เสมอเท่านั้น และที่น่าเจ็บใจคือ แยน โทมาสเซฟกี โกลของโปแลนด์ ซึ่งถูกไบรอัน คลัฟ ตราหน้าว่าเป็นตัวตลก ดันโชว์ฟอร์มเซฟอุตลุด
  
9. เนเธอร์แลนด์ ปี ค.ศ. 1986
หลังจากล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 1978 ซึ่งพวกเขาได้รองแชมป์ ขุนพลเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยแข้งดาวรุ่งก็กลับมาโชว์ฟอร์ม เยี่ยมในช่วงกลางทศวรรษ 80 พวกเขามีตัวดังอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเทน, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, รุด กุลลิต และ ร็อบ เดอ วิต อย่างไรก็ตาม ฮอลแลนด์ ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกอย่างขมขื่นด้วยกฎยิงประตูทีมเยือนหลังจากที่โดน จอร์จ กรุน ของเบลเยียม ทีมเพื่อนบ้านยิงประตูในช่วงท้ายเกมของนัดที่ 2
  
8. สหภาพโซเวียต ปี ค.ศ. 1978
แม้ว่าจะมียอดนักเตะจากดินาโม เคียฟ ที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1975 อยู่ในทีมหลายคน รวมทั้งโอเล็ก บลอคกิน ตำนานลูกหนัง แต่สหภาพโซเวียต จบที่อันดับ 2 ของรอบคัดเลือกกลุ่มที่ 9 ทั้งนี้ต้องโทษความปราชัยแบบช็อกโลกที่มีต่อกรีซ 0-1 ที่เธสซาโลนิกิ
  
7. อิตาลี ปี ค.ศ. 1958
ช่วงทศวรรษที่ 50 ถือเป็นช่วงเลวร้ายของทีม "อัซซูรี่" เนื่องจากทีมชาติอิตาลี สูญเสียมากจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในปี ค.ศ. 1949 ที่ทำให้ นักเตะของโตริโนเกือบทั้งหมดเสียชีวิต แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมชาติอิตาลีก็ยังถูกคาดหวังว่าจะได้ผ่านเข้ารอบศึกฟุตบอลโลก 1958 ที่สวีเดน แต่อิตาลีกลับทำให้เพื่อนร่วมชาติผิดหวังด้วยการบุกไปแพ้ไอร์แลนด์เหนือที่ เบลฟาสต์ในนัดสุดท้าย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูก หนังอิตาลี และพวกเขาต้องรอจนถึงกลางปี ค.ศ. 1960 หรืออีกประมาณ 2 ปีครึ่ง กว่าที่จะชนะเกมการแข่งขัน
  
6. โปรตุเกส ปี ค.ศ. 1998
ด้วยยุคทองของทีม ที่มีนักเตะอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า และ เจา ปินโต โปรตุเกสมีโอกาสดีที่สุดที่จะสร้างความสั่นสะเทือนในศึกฟุตบอลโลก ต่อจากยุคของยูเซบิโอ และ มาริโอ โคลูนา ในปี ค.ศ. 1966 ทว่ามันก็เป็นเหมือนฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 1990 และ 1994 ทีมโปรตุเกส ไม่ผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกที่ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1998 โปรตุเกส จบด้วยอันดับ 3 ต่อจากเยอรมนี และ ยูเครน
  
5. อังกฤษ ปี ค.ศ. 1994
เกรแฮม เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ สามารถรักษาเก้าอี้ได้อย่างเหลือเชื่อทั้ง ๆ ที่อังกฤษล้มเหลวอย่างแรงในศึกยูโร 1992 ทว่าดวงของเขาก็ช่วยไม่ได้อีกต่อไป เมื่อ ทรีไลออนส์ ไม่ผ่านรอบคัดเลือกไปแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แพ้ทั้ง นอร์เวย์ และ ฮอลแลนด์ นอกจากนี้พวกเขายังทำขายหน้าด้วยการเสียประตูแค่ 7 วินาที ในเกมที่พบกับหมูน้อยอย่าง ซานมาริโน ด้วย
  
4. ยูโกสลาเวีย ปี ค.ศ. 1994
ยูโกสลาเวีย ไม่ได้มีส่วนร่วมในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 1994 ด้วยซ้ำ พวกเขาโดนแบนจากสงครามซึ่งนำไปสู่การแตกออกเป็นหลาย ๆ ชาติทั้งโครเอเชีย, สโลวีเนีย, มาซิโดเนีย และ บอสเนีย ตอนนั้นยูโกสลาเวีย เป็นทีมที่ได้รับการยกย่องว่าอาจจะแข็งแกร่งที่สุดของโลกในตอนนั้น พวกเขามียอดนักเตะอย่าง ดราแกน สตอยจ์โควิช, ซโวนีเมียร์ โบบัน, เดยัน ซาวิเซวิช, ดาวอร์ ซูเคอร์, ดาร์โก ปานเชฟ, ซินิซา มิไฮโลวิช, โรเบิร์ต โปรซิเนคกี และ ซเรคโก คาตาเนค
  
3. สกอตแลนด์ ปี ค.ศ. 1970
ในช่วงปลายทศวรรษ 60 ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นทศวรรษ 70 ทีมลูกหนังสกอตแลนด์ เป็นที่หวั่นเกรงและได้รับการยกย่องจากทั่วทั้งยุโรป ด้วยผลงานของกลาส โกว์ เซลติกส์ ที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 1967 และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี ค.ศ. 1972 ทีมชาติสกอตแลนด์ ใช้นักเตะจาก 2 ยักษ์ใหญ่จากเมืองกลาสโกว์ อย่างจิมมี จอห์นสโตน และ จอห์น เกร็ก และ นักเตะที่ค้าแข้งในอังกฤษอย่าง เดนิส ลอว์ และ บิลลี เบรมเมอร์ แต่พวกเขาก็จบรอบคัดเลือกโดยตามหลังเยอรมนีตะวันตกหลังจากเกมสุดคลาสสิกที่ บุกไปแพ้ 2-3 ที่ฮัมบวร์ก
  
2. เนเธอร์แลนด์ ปี ค.ศ. 2002
แม้ว่าจะมีนักเตะระดับเวิลด์คลาส หลายคนในทีมทั้ง เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, รุด ฟาน นิสเตลรอย, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส และ ยาป สตัม แต่ทีมอัศวินสีส้มของหลุยส์ ฟาน กัล กลับทำได้แค่อันดับ 3 ของกลุ่มตามหลัง โปรตุเกส และ ไอร์แลนด์ พวกเขาแพ้นักเตะไอริช 0-1 ในเกมนัดชี้ชะตาที่ดับลิน
  
1. ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1994
ฝรั่งเศส เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ในอีก 4 ปีต่อมา แต่ในศึกฟุตบอลโลกครั้งก่อนหน้านั้น พวกเขาไม่ผ่านรอบคัดเลือกอย่างสุดเหลือเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ออกสตาร์ตอย่างดีเยี่ยมเก็บได้ถึง 13 จากทั้งหมด 16 คะแนน ในการแข่งขันรอบคัดเลือกกลุ่ม 6 ทีมตราไก่ยุคนั้น มีนักเตะดังอย่าง ฌอง ปิแอร์ ปาแปง, ดาวิด ชิโนล่า, เอริค คันโตน่า, ดิดิเยร์ เดส์ฌอง และ มาร์กแซล เดอไซญี่ ฝรั่งเศส ต้องการอีกแค่แต้มเดียว จากการเล่นในบ้าน 2 นัดสุดท้าย ก็จะผ่านเข้ารอบคัดเลือก ทว่าพวกเขาดันแพ้อิสราเอล และ บัลแกเรีย ทั้ง 2 นัดคาบ้านตัวเอง โดยที่ ฝรั่งเศส มาโดนยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้ง 2 นัดอีกต่างหาก.



แมวน้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook