วันนี้ (19 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บ้านในตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งกำลังจัดงานศพของ นายปรินทร อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 3 สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ หลังถูกนายกิตติ อายุ 29 ปี ชาวตำบลหนองแก้ว อำเภอเมืองศรีสะเกษ มีอาชีพรับจ้าง ใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต ที่ร้านขายข้าวต้ม ในตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอย่างลอยนวล
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เวลา 01.00 น. นายปรินทร กับเพื่อนๆ ประมาณ 6-7 คน ได้กลับจากงานฉลองวันเกิดเพื่อน จากนั้นได้พากันไปนั่งรับประทานข้าวต้มที่ร้านแห่งหนึ่ง ในตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จังหวะนั้นเองได้มี นายกิตติ หรือ อาร์ม เดินเข้ามาถาม นายณัฐวุฒิ หนึ่งในเพื่อนของนายปรินทร ที่มากินข้าวต้มด้วยกัน ว่า มาจากบ้านไหน นายณัฐวุฒิจึงตอบไปว่า มาจากบ้านหญ้าปล้อง เพียงเท่านั้นนายอาร์มก็ตบไปที่หัวของนายณัฐวุฒิ โดยที่นายณัฐวุฒิเองก็ยัง งง อยู่ว่า มาตบตนเองเรื่องอะไร ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
เมื่อนายปรินทรเห็นเพื่อนถูกทำร้าย จึงได้เดินเข้าไปสอบถามว่า มาทำร้ายเพื่อนตนทำไม แต่แทนที่จะได้รับคำตอบ นายกิตติกลับใช้อาวุธมีดที่ซุกซ่อนมาในกระเป๋า แทงสวนมา มีดเข้ากลางหน้าอกของนายปรินทรจนล้มฟุบไปตรงหน้าเพื่อนๆ ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษ แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ระบุว่า ถูกของมีคมตัดขั้วหัวใจจนเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ อบอุ่น รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ ลงพื้นที่เกิดเหตุ และหาเบาะแสของคนร้ายโดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จึงทราบว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุคือ นายกิตติ คำสวรรค์ หรือ อาร์ม ซึ่งพ้นโทษออกมาจากคุกได้ประมาณ 3 เดือน ในคดีพยายามฆ่า แล้วมาก่อเหตุซ้ำขึ้นอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังตามจับกุม แต่คนร้ายมีความชำนาญในการหลบหนี สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้
ด้านนายบุญมี และนางอมรรัตน์ พ่อและแม่ของนายปรินทร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกใจสลายที่ต้องมาเสียลูกชายที่รัก เพราะลูกชายเป็นคนดี เป็นที่รักของครอบครัวและญาติมิตร นอกจากจะเรียนหนังสือแล้ว ยังช่วยการช่วยงานพ่อแม่ตลอด เป็นคนขยัน และเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน ตนทั้งสองคนไม่เข้าใจถึงจิตใจของคนที่ลงมือฆ่าลูกชาย ทำไมจิตใจถึงได้โหดเหี้ยม ลงมือแทงลูกชายตนทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องผิดใจบาดหมางกันมาก่อน และขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งจับตัวคนร้ายมารับโทษตามกฎหมาย และนำตัวมาขอขมาศพลูกชายของตน ส่วนตนและสามีพร้อมจะอโหสิกรรมให้ เพราะไม่อยากอาฆาตแค้น เพราะเกรงว่าลูกชายจะได้รับผลกรรมไปด้วย
ส่วนนายธีรยุทธ์ โพธิ์ทอน อายุ 29 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายปรินทร บอกว่าตนและญาติๆ ได้ตั้งรางวัลนำจับ สำหรับบุคคลใดที่ทราบเบาะแสของคนร้ายจนสามารถนำไปถึงการจับกุม มีรางวัลให้ 10,000 หมื่นบาท แต่ถ้าใครจับตัวมาได้ มีรางวัล 50,000 บาท