ทิศทางการเมืองญี่ปุ่น...หลังการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์

ทิศทางการเมืองญี่ปุ่น...หลังการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2552 ที่ผ่าน เอเชียมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในญี่ปุ่น โดยก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้ง กระแสข่าวที่สร้างความตื่นเต้นทั่วเอเชียก็คือ ความเป็นไปได้ในการสลับขั้วทางการเมืองของญี่ปุ่น โดยพรรคเดโมแครติก ปาร์ตี ออฟ เจแปน หรือ ดีเจพี ซึ่งเคยเป็นพรรคฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้งกลายเป็นพรรครัฐบาล พลิกประวัติศาสตร์การครองขั้วการบริหารประเทศมาอย่างยาวนานราวครึ่งศตวรรษของพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี หรือ แอลดีพี การเมืองใหม่ของญี่ปุ่น แน่นอนว่าเมื่อมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในญี่ปุ่น นโยบายต่าง ๆ ในการบริหารประเทศย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย พรรคดีเจพี โดยนายยูกิโอะ ฮาโตยามะ ได้ประกาศนโยบายว่าจะรับมือกับปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการเปลี่ยนบทบาทความสัมพันธ์กับนานาประเทศ โดยจะลดความสัมพันธ์ในลักษณะพึ่งพิงกับสหรัฐโดยให้มีลักษณะของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน และเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการให้คำมั่นสัญญาว่าจะเน้นหนักการใช้จ่ายงบประมาณซึ่งเอื้อประโยชน์ถึงตัวผู้บริโภค ตัดและลดการตั้งงบประมาณที่สิ้นเปลืองโดยขาดประสิภาพ และลดทอนอำนาจของข้าราชการลง สิ่งที่นานาประเทศจับตามอง เจอร์รี เคอร์ติส ผู้เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่น ณ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ของสหรัฐฯ ชี้ว่า สิ่งที่กำลังบังเกิดขึ้นในเวลานี้ คือ "การสิ้นสุดของระบบการเมืองหลังสงครามโลกในญี่ปุ่น และ "เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการเริ่มต้นของอีกยุคสมัยหนึ่งซึ่งยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งนี้สิ่งที่คาดว่านานาชาติจะจับตามองเป็นพิเศษก็คือ การที่นายยูกิโอะ ฮาโตยามะ แสดงความคิดเห็นที่คัดด้านกับเศรษฐกิจเสรีนิยมแบบอเมริกันอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา โดยได้เคยเขียนบทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิทุนนิยมสไตล์สหรัฐฯ ว่าเป็นแนวคิดที่ "ไร้ซึ่งศีลธรรมและความพอดี และสร้างความเสียหายต่อประชาชน นอกจากนี้ยังระบุอีกว่าความล้มเหลวในสงครามอิรักและวิกฤตทางการเงินของสหรัฐมีผลผลลัพธ์ทำให้ถึงจุดสิ้นสุดของการเป็นผู้นำทางการเมืองของสหรัฐ โดยหลังจากนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ความคาดหวังต่อการเมืองใหม่โดยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในแวดวงการเงิน ได้มีการตั้งความหวังกันไว้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินการทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยมีการคาดการณ์กันไว้ว่าชัยชนะอย่างท่วมท้นของพรรคดีพีเจ จะเป็นการแก้ไขภาวะติดขัดอึดอัดทางการเมือง อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่าหากรัฐบาลชุดใหม่มีการเพิ่มการใช้จ่ายมากมายตามที่ให้สัญญาไว้ตอนหาเสียง ก็อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รัฐบาลอาจจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เท่ากับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวขยับสูงขึ้นไป อย่างไรก็ตามพรรคดีพีเจก็จะต้องดำเนินการตามนโยบายที่ได้ให้คำมั่นไว้ให้เห็นผลอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อรักษาแรงสนับสนุนของผู้ออกเสียง ซึ่งกำลังมีความกังวลเรื่องอัตราการว่างงานที่ทะยานสูงขึ้นอย่างมาก แม้รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น จะยังไมมีความชัดเจนด้านนโยบายเกี่ยวกับประเทศไทยโดยตรง ทว่าประเทศไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจซึ่งมีการค้าขายกับญี่ปุ่นเป็นเม็ดเงินมหาศาลก็จำเป็นจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด โดยไม่อาจใช้ความคุ้นเคย หรือวิธีการคาดการณ์แบบอดีตตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีได้แล้ว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองเอเชียในภาวะที่เกิดสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล