มาบตาพุดร้องศาลปกครองเพิกถอนมติครม.

มาบตาพุดร้องศาลปกครองเพิกถอนมติครม.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ศาลปกครอง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียง จ.ระยอง จำนวน 43 คน ได้เดินทางเข้ายื่นฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 8 คน ต่อศาลปกครอง โดยขอให้ไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รวมทั้งขอให้มีคำสั่งระงับโครงการ หรือกิจกรรมใดที่จะก่อสร้างใน เขต อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา นอกจากนี้ยังขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2552 ที่อนุญาตให้มีการออกใบอนุญาตแก่โรงงาน ที่ผ่านการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้ยึดหลักตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยเห็นว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนที่จะเข้าดำเนินการในเขตควบคุมมลพิษ ดังนั้นหากรัฐบาลให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดำเนินการตามมติครม.ที่เห็นชอบตามคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ที่ระบุไว้ว่า การออกใบอนุญาต โครงการที่เข้าข่ายเป็นโครงการหรือกิจกรรม ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องดำเนินการจัดทำรายการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องจัดให้มีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง นอกจากนี้จะต้องจัดให้มีองค์กรอิสระด้วยสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นประกอบก่อนการดำเนินการ แต่ในการอนุมัติตามมติครม. มีแต่ผลการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพียงด้านเดียว ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอ่างรุนแรง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชน ด้านนายสุทธิ อัชฌาศัย หนึ่งในผู้ร่วมฟ้องคดีฯ กล่าวว่า หากการดำเนินการทางกฎหมายที่ได้ฟ้องตามช่องทางและตามกระบวนการยุติธรรมไม่เป็นผล ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกก็จะชุมนุมใหญ่ที่นิคมอุตสาหรรมมาบตาพุด โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ชาวบ้าน จ.ระยอง ไม่ต้องการขัดขวางการลงทุน แต่อยากให้การลงทุนเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวอาจจะต้องมีการปิดล้อมท่าเรือและนิคมอุสาหกรรม รวมถึงโรงงานที่จะเปิดใหม่ เพื่อส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่า ปัญหามลพิษในจังหวัดยังไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา และอาจจะเป็นปัญหาระยะยาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook