ทำความรู้จัก 3 แชมป์โลกหมาดๆวงการกีฬาไทย เขาเป็นใครมาจากไหน อนาคตจะเป็นอย่างไร

ทำความรู้จัก 3 แชมป์โลกหมาดๆวงการกีฬาไทย เขาเป็นใครมาจากไหน อนาคตจะเป็นอย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ขณะที่อุณหภูมิการเมืองในเดือนสิงหาคมรุ่มร้อนยิ่งนัก3 นักกีฬาเยาวชนไทยทำให้คนไทยยิ้มได้ด้วยการคว้าแชมป์โลกมาครองพร้อมๆกัน อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์

นักกีฬาทั้งสามไม่ได้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายกันมากนักทั้งในวงการกีฬาและคนทั่วไป เนื่องจากเป็นนักกีฬาระดับเยาวชนเพิ่งเข้าสู่วงการได้ไม่นานนัก

รายแรก กีระติ บัวลง ไอ้หนุ่มสูงยาวเข่าดีวัย 16 ปีจากนครพนม เปิดฉากการคว้าแชมป์โลกประวัติศาตร์ ในการแข่งขันเรือใบเลเซอร์ เรเดียล เยาวชนชิงแชมป์โลก 2009 ที่เมืองคารัตซุ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 3-10 สิงหาคม การแข่งขันมีเรือ 125 ลำจาก 25 ประเทศทั่วโลกเข้าชิงชัย

แชมป์โลกของกีระติได้มาแบบต้องลุ้นกันในวินาทีสุดท้ายจริงเนื่องจากแข่งเสร็จก็ยังไม่รู้ต้องรอผลคะแนนรวมเพราะคะแนนสูสีกันเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเฉือนกันแค่เงา

การแข่งขันใช้ระบบ 12 รอบคิด 10 รอบที่ดีที่สุด จบ 8 รอบกีระติมีคะแนนมาเป็นอันดับสองตามหลังอาเรียน อเล็กซานเดอร์ นักแล่นใบจากโปแลนด์ 14 คะแนนเหลือการแข่งขันเพียง 2 รอบในวันสุดท้าย รอบแรกกีระติเข้ามาเป็นอันดับ 2 ขณะที่โปแลนด์อันดับ 21 รอบสองหรือรอบสุดท้ายสมาธิของกีระติอยู่ที่อเล็กซานเดอร์อย่างเดียวคือต้องสกัดและหนีเข้าเส้นชัยให้อันดับห่างกันที่สุด กีระติเข้าเส้นชัยอันดับที่ 7 นักแล่ใบโปแลนด์ อันดับ 17

สิ้นสุดการแข่งขันทุกคนรอด้วยความระทึกไม่มีใครตอบได้ว่าใครจะเป็นแชมป์ระหว่างกีระติกับอเล็กซานเดอร์ต้องรอคะแนนรวมจากคณะกรรมการผลนักกีฬาทั้งสองมีคะแนนเสียเท่ากัน 43 คะแนนต้องตัดสินแชมป์โดยดูผลงาน 4 รอบสุดท้ายผลกีระติทำได้ดีกว่าจึงคว้าแชมป์โลกมาครอง

ท็อป กีระติ เป็นชาวนครพนม ช่วงปิดเทอดพ่อมามาเยี่ยมญาติที่สัตหีบและได้รับการชักชวนให้เข้ามาเข้าคอร์สเล่นเรือใบก่อนจะติดใจย้ายมาอยู่สัตหีบตั้แต่ 9 ขวบ แต่ไม่ประสบความสำเร็จทำให้ท้อคิดเลิก จนผู้ฝึกสอนต้อนปรับจากเรือออฟติมิสต์มาเล่นเรือใหญ่กว่าอย่างเลเซอร์ เนื่องจากกีระติมีรูปางที่ใหญ่โตกว่าเด็กปกติ ไม่เหมาะกับเรืออย่างออฟติมิสต์

ปี 2008 กีระติ เริ่มหันมาเล่นเรือเลเซอร์อย่างจริงจัง ในเรือเลเซอร์ 4.7 สร้างความประหลาดใจด้วยการไปคว้าอันดับ 6 ในการชิงแชมป์โลก 2008 ที่โครเอเชีย ต้นปี 2009 กีระติ หันมาเล่นเรือเลเซอร์ เรเดียล ยิ่งต้องทำให้ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตกที่พัฒนารวดเร็วมาก

ท็อป กล่าวว่า หลังจากผ่านรอบ 4 มั่นใจว่าได้รองแชมป์แน่ๆ ในการแข่งขันสองรอบวันสุดท้ายไม่กดดันอะไรเนื่องจากมีรองแชมป์อยู่ในมือเกินเป้าหมายแล้ว แต่สู้เต็มที่ดีใจมากที่ทำสำเร็จ ไม่คาดคิดว่าจะมาได้ไกลถึงแชมป์โลก ที่เข้ามาเล่นเรือใบเพราะเป็นกีฬาที่สนุก แต่ก็ได้ทุ่มเทอย่างมากจนต้องหยุดเรียน

เป้าหมายต่อไปของผมอยู่ที่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 พ.ศ.2553 และการเข้ารอบสุดท้ายไปแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ ค.ศ.2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ร.อ.วีรสิฐ พวงนาค ผู้ฝึกสอนชาวไทย กล่าวว่า สมาคมแข่งเรือใบตั้งเป้าผลักดันและส่งเสริมให้กีระติเป็นนักกีฬาเรือใบคนแรกของประเทศไทยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันรอบสุดท้าย

คนต่อมานพพล แสงคำ นักสนุกเกอร์วัย 17 ปีเจ้าของฉายาหมู ปากน้ำ ที่คว้าแชมป์สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์โลก ค.ศ.2009 ที่ประเทศอิหร่าน วันที่ 14 สิงหาคม โดยรอบชิงชนะเลิศชนะโซฮิว วาฮิดี นักสนุกเกอร์อิหร่านสุดเร้าใจ 9-8 เฟรม

นพพล เป็นคนปากน้ำสมุทรปราการโดยกำเนิด พ่อทำกิจการโต๊ะสนุกเกอร์ แต่ไม่ได้อยากเล่น กระทั่งอายุ 14 ปี เริ่มสนใจฝึกซ้อมประมาณ 1 ปีก็ประสบความสำเร็จได้เป็นตัวแทนการแข่งขันสนุกเกอร์นักเรียนภาคกลางได้เข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายพร้อมกับคว้ารองแชมป์มาครองในปี 2551 จากนั้นก็เข้าสู่สงการสนุกเกอร์อาชีพอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา

ตำแหน่งแชมป์เยาวชนโลกทำให้ได้สิทธิไปเล่นสนุกเกอร์อาชีพโลกที่อังกฤษในฤดูกาลหน้า สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยตั้งเป้าจะปั้นหมูเป็นตัวแทนตัวตาย ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รัชพล ภู่โอบอ้อม ในอนาคต

หมู กล่าว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะไปได้ไกลขนาดเป็นแชมป์โลก ก่อนการแข่ขันตั้งป้าไว้แค่ผ่านรอบแรกเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ผ่านเข้ารอบก็มีความมั่นใจเพิ่มด้วยเช่นกัน การได้โอกาสไปเล่นสนุกเกอร์อาชีพที่อังกฤษจะพยายามทำให้ดีที่สุด ปัจจุบันเตรียมตัวอย่างดีด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนักพร้อมกับเรียนภาษาอังกฤษไปด้วยแม้จะไม่มีเวลามากนักก็ตามที

แชมป์โลกเดือนสิงหาคมของไทยคนสุดท้ายในเดือนสิงหาคมคือด.ญ.นพเก้า พูนพัฒน์ วัย 13 ปี ในการแข่งขันเรือใบออฟติมิสต์ ชิงแชมป์โลก ค.ศ.2009 ที่บราซิล ระหว่างวันที่ 4-15 สิงหาคม นอกจากคว้าแชมป์บุคคลแล้วยังเป็นกำลังสำคัญนำทีมชาติไทยครองอันดับ 4 ประเภททีมได้อีกด้วย

นพเก้า ถือเป็นลูกไม่หล่นไม่ไกลต้น เนื่องจากเป็นลูกของร.ต.สมเกียรติ พูนพัฒน์ อดีตนักเรือใบทีมชาติไทยที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นโค้ช นพเก้าเริ่มเล่นกีฬาเรือใบตั้งแต่อายุ 6 ขวบเศษมีพัฒนาการที่เร็วมาก ก่อนคว้าแชมป์โลกนพเก้าประกาศศักดาครองแชมป์มาแล้วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียรวมทั้งแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่นครราชสีมา พ.ศ.2550

สมาคมเรือใบเตรียมสนับสนุนนพเก้าให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่ประเทศจีน พ.ศ.2553 ก่อนจะผลักดันให้หันไปเล่นเรือประเภทอื่นเพื่อกรุยทางสู่การแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ต่อไป เนื่องจากเรือออฟติมิสต์กำหนดอายุนักกีฬาไว้ที่ไม่เกิน 14 ปีรวมทั้งไม่มีในการแข่งขันโอลิมปิคเกมส์ ค.ศ.2012 ที่อังกฤษ

อย่าพลาดติดตามผลงานของนักกีฬาทั้งสาม ด้วยศักยภาพและวัยที่มีระยะเวลาการใช้งานอีกยาวไกล เชื่อว่าจะสร้างผลงานให้กับตัวเองและประเทศชาติอีกมากมายอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook