ทำเต็มร้อยตลอดเวลา สร้างประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร

ทำเต็มร้อยตลอดเวลา สร้างประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แม้จะเป็นผู้บริหารหญิงของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย องค์กรซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมของประเทศ รวมถึงเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่น ตลอดจนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ ภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าไม่รู้สึกกดดันหรือเครียดมากนัก เพราะทำงาน ณ องค์กรแห่งนี้มาประมาณ 30 ปี ทำให้รู้ซึ้งถึงภารกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอย่างดี

ก็คือ 1.เป็นช่องทางการระดมทุนให้กับธุรกิจเอกชนและภาครัฐ 2. ต้องมีผลิตภัณฑ์ให้ผู้ลงทุนที่มีเงินออมมีโอกาสได้ลงทุนอย่างครบถ้วน และ 3. ต้องเป็นช่องทางกระจายการถือครองหลักทรัพย์ไปถึงประชาชนในวงกว้าง ซึ่งตลอด 3 ปีที่ขึ้นเป็นผู้จัดการก็ได้สานต่อภารกิจที่กำหนดไว้

ทำให้การได้ทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีข้อดีมากๆ รู้สึกภาคภูมิใจว่าเป็นองค์กรที่ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง และทำเพื่อผู้ที่ต้องใช้ตลาดทุนให้เกิดประโยชน์

ดังเช่นเมื่อคราวที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเผชิญวิกฤติใหญ่ๆ 3-4 เหตุการณ์ มีเหตุการณ์การยึดอำนาจการบริหารโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ตามมาด้วยการประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนระยะสั้นไหลเข้า 30 % ของธนาคารแห่งประเทศไทยวันที่ 18 ธ.ค. 2549 หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด และวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปี 2551 ซึ่งแต่ละวิกฤติล้วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างแรง แต่ ภัทรียา ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจสิ่งที่ทำก็คือต้องประเมินผลกระทบ และวางแผนการแก้ไข ดูว่าต้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานหรือองค์กรใดบ้างเพื่อแก้ไขวิกฤติ ถือเป็นภาระหน้าที่ของผู้จัดการที่ต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วงด้วยดี

ภัทรียา กล่าวถึงผลงานหรือความสำเร็จในการขับเคลื่อนตลาดหลักทรัพย์ฯฝ่าปัจจัยลบที่เข้ามากระทบหลายครั้งหลายหน ไม่ใช่ผลงานของตัวเองผู้เดียว แต่เป็นผลงานของทั้งองค์กร ทั้งทีมงาน

สำหรับหลักคิดในการทำงาน ภัทรียากล่าวว่า ไม่ว่าวันนี้เราจะอยู่ในตำแหน่งใด ต้องทำงานเต็มร้อยตลอดเวลากับงานที่รับผิดชอบ ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่เล็กสุดจนสูงสุดถือเป็นกลไกสำคัญขององค์กร จำเป็นต้องปลูกฝังให้พนักงานรักและให้ความสำคัญกับงานที่รับผิดชอบ ให้ดีที่สุดตลอดเวลา

ทุกอย่างเราไม่สามารถที่ทำจะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกเรื่อง ทุกเวลา แต่โดยรวมๆ แล้ว สามารถเดินไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ก็ถือว่าใช้ได้ ก็พอใจแล้ว เพราะตัวเองไม่ใช่คนเล็งผลเลิศมากนัก ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างในโลกนี้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกอย่างเชื่อว่าชีวิตต้องสมดุล เรื่องงานก็ต้องสำเร็จ เป็นที่ยอมรับ ชีวิตครอบครัวก็ต้องมีคุณภาพพอสมควร ไม่ต้องเต็มร้อยทั้งสองด้านก็ได้ แค่ 80% ก็พอใจแล้ว

นอกจากวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว ปัจจุบันภาวะตลาดการเงินโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในประเทศด้วย และจัดเป็นเรื่องท้าทายผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นในช่วงปีที่ผ่านมา ภัทรียา ได้ปรับทิศทางและโครงสร้างองค์กร เพื่อปรับตัวเองให้ทันต่อสภาพแวดล้อม พร้อมเสริมความแข็งแกร่งอยู่เสมอ เพื่อส่งประโยชน์การเป็นตลาดทุนไปถึงภาคธุรกิจกับผู้ลงทุนให้ได้ ในการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหม่ เธอยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย ต้องใช้พลังอย่างมากล้น

ในการปรับโครงสร้างองค์กรที่ได้ทำไป ก็คือการแยกกลุ่มงานให้ชัดเจน เพื่อให้ภารกิจการทำงานในฐานะเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นกลไกในการระดมทุน สร้างตราสารเพื่อการลงทุน หรือกลุ่มงานพัฒนา แต่ละกลุ่มมีตัววัดที่ชัดเจน เริ่มใช้มาตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา

เป้าหมายคือ อยากจะเป็นตลาดทุนที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การระดมทุนของ บจ.ก็อยากให้เขาระดมได้มากขึ้นด้วยต้นทุนต่ำที่สมเหตุสมผล และใช้ช่องทางเราในการใช้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ ผู้ลงทุนก็ต้องมีตราสารทางการเงินอย่างเพียงพอ เพื่อจะเป็นทางเลือกในการลงทุนอย่างครบถ้วน

สำหรับบุคคลที่ภัทรียายึดเป็นต้นแบบในการทำงาน ก็คือ คุณศุกรีย์ แก้วเจริญ ผู้จัดการคนแรกของตลาดหลักทรัพย์ฯ และนายคนแรกของภัทรียาด้วย เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจเต็มร้อยในการเริ่มตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จนถึงวันนี้เธอได้เรียนรู้ว่าถ้ามุ่งมั่นเต็มร้อยแล้วก็เดินไปได้และสามารถส่งต่อถึงคนรุ่นหลัง ภัทรียาใคร่ครวญก่อนกล่าวสรุปทิ้งท้ายไว้ว่า ปรัชญาในการทำงานของ คุณสุกรีย์ ให้ความสำคัญเรื่องความซื่อสัตย์เป็นหลัก ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ว่าระดับไหนก็ตามต้องมีความซื่อตรง ซื่อสัตย์กับงานกับองค์กร โดยเฉพาะการทำประโยชน์ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉะนั้น ถ้าผู้บริหารไม่ยึดมั่นในความซื่อตรง โปร่งใสแล้ว องค์กรคงไม่เดินรุดหน้าสร้างความน่าเชื่อถือมาจนถึงทุกวันนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook