''ซีคอน''ผนึก''คอมแพค''ดันยอด รับสร้างบ้านโต10%โกยพันล้าน
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านของบริษัทในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายทั้ง 2บริษัท ได้ 606 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาแบ่งเป็นบริษัท ซีคอนฯ ทำยอดขายได้ 380 ล้านบาท เติบโตลดลง 7% หรือรับสร้างบ้าน 90 หลัง บริษัท คอมแพคฯ ทำยอดขายได้ 226 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 35% หรือรับสร้างบ้านประมาณ 135 หลัง
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วและต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกปีนี้ ภาพรวมของธุรกิจไม่ดีนัก บริษัท ซีคอนฯ ไตรมาสแรกติดลบถึง 20% เนื่องจากมีปัญหาทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์ใหม่ทั้ง 2 บริษัท ดูเรื่องของแบบบ้านเพิ่มขึ้น อย่างซีคอนมีแบบบ้านใหม่ 30 แบบ ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งที่ออกแบบใหม่และทั้งที่นำแบบเก่ามาปรับปรุง ส่วนคอมแพคก็มีแบบบ้าน 14 แบบ ราคาตั้งแต่ 1-2 ล้านบาท ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า นางสาวศุภิชชา กล่าวและว่า
โดยช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 เดือนนับจากนี้ เชื่อว่าทั้ง 2 บริษัทจะทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา หรือทำรายได้ 1,100-1,150 ล้านบาท ซึ่งบริษัท คอมแพคฯ คาดว่าจะมีรายได้ 300-350 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 50% หรือรับสร้างบ้านประมาณ 200 หลัง ส่วนบริษัท ซีคอนฯ คาดว่าจะมีรายได้ 800 ล้านบาทหรือรับสร้างบ้าน 150 หลัง เท่ากับปีที่ผ่านมา
นางสาวศุภิชชา กล่าวอีกว่า ตลาดรับสร้างบ้านในระดับราคา 3-5 ล้านบาทชะลอตัว เนื่องจากผู้สร้างบ้านในกลุ่มนี้เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่สร้างบ้านหลังที่ 2 ส่งผลให้การตัดสินใจช้าลง หรือชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านออกไปก่อน ขณะที่หากเป็นกลุ่มพนักงานจะพบว่ามีปัญหาเรื่องหนี้สิน มีบัตรเครดิตหลายใบ และไม่ผ่านเครดิตบูโร ทำให้ไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้จากสถาบันการเงิน ที่ผ่านมาบริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ประมาณ 7-8% เท่านั้น ส่วนภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านปีนี้น่าจะทรงตัวเท่ากับปีที่ผ่านมา
แนวโน้มราคาน้ำมันก็น่าจะปรับสูงขึ้น แต่จะสูงขึ้นเท่าไรนั้นคงตอบยาก ซึ่งคงส่งผลต่อราคาวัสดุก่อสร้างที่จะปรับขึ้นได้ในปีหน้า และราคารับสร้างบ้านก็คงขยับตาม น่าจะประมาณ 3% ที่จะปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็คงต้องดูด้วยว่าน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นเท่าไร ตอนนี้บริษัทก็ฟิกราคาวัสดุล่วงหน้าไว้ประมาณ 6 เดือน ส่วนงานรับสร้างบ้านบริษัทยังเน้นกลยุทธ์การให้ส่วนลดตั้งแต่ 5-15% ตามแบบบ้าน และจะได้ส่วนลดเท่ากับจำนวนเงินที่จองเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าจะช่วยดันยอดขายในงานรวม ทั้งสองบริษัทที่ 180 ล้านบาท
