ศก.โลกซบยาวกดไทยฟื้นยาก บัวหลวงชี้เพิ่มลงทุน-บริโภค

ศก.โลกซบยาวกดไทยฟื้นยาก บัวหลวงชี้เพิ่มลงทุน-บริโภค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แบงก์กรุงเทพชี้เศรษฐกิจโลกซบยาว2-3ปีช่วงนี้สหรัฐฟื้นแค่ตลาดเงิน-ภาคเศรษฐกิจจริงยังไม่มีสัญญาณผงกกดเศรษฐกิจไทยฟื้นยากระบุตัวเลขส่งออก-ตลาดหุ้นพุ่งไม่ใช่ฟื้นจริงแนะทางรอดปั๊มลงทุนเพิ่มสัดส่วนการบริโภคนายสาธิตอุทัยศรีที่ปรึกษาสายประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพกล่าวว่าหากเศรษฐกิจหลักๆคือสหรัฐยุโรปรวมถึงญี่ปุ่นยังไม่ฟื้นตัวก็มีความเป็นไปได้ยากที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นเนื่องจากเศรษฐกิจไทยเป็นระบบเปิดที่พึ่งพิงต่างประเทศเป็นส่วนมากเห็นได้จากโครงสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ(จีดีพี)มูลค่า9ล้านล้านบาทมาจากการบริโภค50%การลงทุน20%ส่วนที่เหลือเป็นภาคต่างประเทศคือการส่งออก70%หักการนำเข้า40%หากจะพึ่งประเทศจีนก็ไม่ได้เพราะมีมูลค่าเศรษฐกิจเพียง30%ของสหรัฐเท่านั้นสำหรับทิศทางเศรษฐกิจโลกรัฐบาลทุกประเทศอัดเงินเข้าสู่ระบบรวมกันกว่า18ล้านดอลลาร์โดยเฉพาะสหรัฐอัดฉีดถึง2ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งส่งผลบวกต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจที่หดตัวชะลอลงในไตรมาส2/52หดตัวเหลือ-1%ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าขณะที่ราคาในภาคอสังหาริมทรัพยปรับตัวดีขึ้นการใช้จ่ายของประชาชนดีขึ้นในบางส่วนและภาคธนาคารใหญ่เริ่มมีกำไรภาวะตลาดในยุโรปและเอเชียก็ไม่ได้ย่ำแย่ลงแม้จะยังไม่ฟื้นชัดเจนอย่างไรก็ตามการเริ่มฟื้นตัว(greenshoots)ของสหรัฐเกิดขึ้นเฉพาะในตลาดการเงินแต่ยังไม่เกิดขึ้นกับภาคเศรษฐกิจจริงซึ่งเงื่อนไขการฟื้นตัวคือ1.การใช้จ่ายของประชาชนต้องเพิ่มขึ้นซึ่งมีความเป็นไปได้ยากที่ส่วนนี้จะกลับไปเท่าอดีตที่มีสัดส่วน70%ของจีดีพีเห็นได้จากหนี้ภาคครัวเรือนสูง138%ของรายได้และคนมีการออมมากกว่าใช้จ่ายโดยอยู่ที่6%ของจีดีพีจาก-1%2.ภาคการผลิตต้องสูงขึ้นซึ่งยังเกิดขึ้นยากเพราะกำลังการผลิตส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์(capitalunemployment)ยังสูง3.การว่างงานต้องลดลงโดยปัจจุบันอัตราว่างงานสูงเกือบ10%สูงเป็นประวัติการณ์แต่ยังต่ำกว่าช่วงวิกฤตgratedepressionที่อยู่25%4.งบประมาณของรัฐบาลต้องสมดุลหรือเกินดุลหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ไม่มีทางที่จะฟื้นยั่งยืนแม้เศรษฐกิจจะผ่านจุดต่ำสุดและไม่ตกต่ำลงไปกว่านี้แต่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังต้องใช้เวลาปรับตัวคงอยู่ในภาวะซบเซาอีก2-3ปีซึ่งเศรษฐกิจไทยก็จะได้รับผลกระทบด้วยนายสาธิตกล่าวว่าแม้ภาคเศรษฐกิจจริงของไทยจะได้รับผลกระทบแต่ฐานะทางการเงินของประเทศแข็งแกร่งโดยหนี้ต่อจีดีพีระดับต่ำที่24.9%ทุนสำรองระหว่างประเทศ1.3แสนล้านดอลลาร์ธนาคารพาณิชย์ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโลกเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก(L/Dratio)84.4%สินเชื่อณสิ้นมี.ค.52ขยายตัว5.7%พร้อมรองรับเศรษฐกิจฟื้นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในระยะต่อไปจะต้องมีการลงทุนซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มของจีดีพีถึง90%เทียบกับการส่งออกและนำเข้าที่มีความสัมพันธ์47%และ72%ขณะที่การลงทุนระยะยาวจากต่างประเทศยังต้องส่งเสริมต่อเนื่องโดยกระจายตลาดลดการพึ่งตลาดเดิมเพราะประเทศอุตสาหกรรม20ประเทศ(G-20)มีมาตรการกีดกันสินค้าจากประเทศด้อยพัฒนามากขึ้นสุดท้ายเพิ่มสัดส่วนการบริโภคในประเทศจากที่มี50%ของจีดีพีในอีก3ปีต่อจากนี้เศรษฐกิจจะยังซบเซาแต่ก็พอทนได้อาจเห็นการฟื้นตัวช้าๆตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปส่วนการส่งออกที่เพิ่มขึ้นตอนนี้อย่าคิดว่าเป็นของจริงเพราะเป็นเพียงการเติมสินค้าคงคลัง(re-stocking)แต่ถ้าเห็นเศรษฐกิจโลกฟื้นแล้วถึงจะเป็นการขยายตัวที่แท้จริงตลาดหุ้นจะยังผันผวนดังนั้นอย่าไปดูว่ามันเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่าตามดอลลาร์ที่ต้องอ่อนลงและเมื่อดอลลาร์ตกราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์ก็จะสูงขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook