ผอ.ฝนหลวงฯ ภาคกลาง หนักใจ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี น้ำน้อย
ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ภาคกลาง หนักใจ หลังน้ำในเขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีน้ำน้อย เพียงร้อยละ 21 ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เริ่มทุเลาแล้ว วันนี้ (21 ส.ค.52) เวลา 14.00 น. นายอาคเณย์ บุญเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ภาคกลาง เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ถือว่ารุนแรงน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนในบางครั้ง ส่งผลให้การทำฝนเทียมประสบผลสำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ได้มีการคาดการณ์ว่า ภาวะฝนทิ้งช่วงปีนี้น่าจะส่งผลให้เกิดความเสียหายกับเกษตรกร แต่เมื่อพบกับสถานการณ์จริงกลับไม่เป็นอุปสรรคในการขึ้นบินทำฝนเทียม หลังจากที่ศูนย์ฝนหลวงฯ ภาคกลาง ย้ายมาตั้งฐานปฏิบัติการที่ จ.ลพบุรี ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีเกษตรกรจากภาคกลางตอนบน รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครราชสีมาบางส่วน โทรศัพท์มาขอให้ช่วยทำฝนเทียมวันละกว่า 10 ราย เนื่องจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำในคูคลองต่างๆ ไม่เพียงพอกับการทำการเกษตร ที่สำคัญหลังจากที่ราคาข้าวดี มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกข้าว จนทำให้ระบบชลประทานบางพื้นที่มีน้ำใช้ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ศูนย์ฝนหลวงฯ ภาคกลาง พยายามเร่งทำฝนเทียมให้เกษตรกรได้มีน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร แม้จะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยก็ตาม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ภาคกลาง กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ทับเสลา จ.อุทัยธานี เพราะมีน้ำเพียงแค่ร้อยละ 21 เท่านั้น ส่วนเขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง โดยก่อนช่วงปิดฐานปฏิบัติการ ช่วงเดือนตุลาคม ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ภาคกลาง จะต้องเร่งทำฝนเทียมให้น้ำในอ่างเก็บน้ำทับเสลาอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 70 เพราะคาดว่าในปี 2553 ภาวะฝนทิ้งช่วงจะยาวกว่าปี 2552