กองทุนฯอัดฉีดทัพไทย3รายการ35ล.

กองทุนฯอัดฉีดทัพไทย3รายการ35ล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรอง การขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เมื่อ 20 ส.ค. ที่ห้องประชุมกระทรวงฯ หลังการประชุม ดร.ศศิธารา เปิดเผยว่า จากเดิมที่กองทุนมีเงินเหลืออยู่ 413 ล้านบาท แต่ยังค้างจ่ายให้กับสมาคมกีฬาต่าง ๆ ที่ทำเรื่องขอรับเงินสนับสนุน จำนวน 96 ล้านบาท พร้อมกับอนุมัติเงินรางวัลให้กับนักกีฬาไทย ที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์, กีฬาเอเชี่ยนมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ประเทศมาเลเซีย รวมกันเป็นเงิน 35 ล้านบาท และที่ประชุมยังได้อนุมัติเงินที่จะให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาต่าง ๆ อีก 19 ล้านบาท ทำให้กองทุนฯ ต้องจ่ายเงินรวมกันประมาณ 150 ล้านบาท จึงเหลือเงินอยู่ประมาณ 263 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2553 กองทุนฯ จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 400 ล้านบาท จะทำให้มีเงิน 663 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอต่อการสนับสนุนนักกีฬาและสมาคมกีฬาต่าง ๆ ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศเวียดนาม, กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว และกีฬายูธโอลิมปิก ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในปีหน้าอย่างแน่นอน

ดร.ศศิธารา กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้งบประมาณช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษกับ นายสำราญ บานเย็น อดีตนักโบว์ลิ่งทีมชาติไทย ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ แต่จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะช่วยเป็นเงินเท่าไร ส่วนสาเหตุที่คณะกรรมการฯ ได้อนุมัติงบประมาณให้กับสมาคมกีฬาต่าง ๆ เป็นเงิน 19 ล้านบาท ทั้งที่ยอดรวมขอมา 41 ล้านบาทนั้น เนื่องจากบางรายการต้องมีการแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งได้ให้สมาคมกีฬาต่าง ๆ ไปทำการแก้ไข แล้วค่อยเสนอกลับมาให้คณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้พิจารณาใหม่ โดยเฉพาะสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ที่ขอรับการสนับสนุนเงินรางวัลจากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ปี 2552 ซึ่งระเบียบกองทุนฯจะให้เงินรางวัลกับนักกีฬา 1 เหรียญที่ดีที่สุดต่อ 1 รุ่นเท่านั้น ไม่ใช่นับทั้ง 3 ท่า นอกจากนี้ยังให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กลับไปพิจารณางบ 1.8 ล้านบาท ที่ขอใช้ในการซื้อพื้นสนามและอุปกรณ์สนามฟุตซอลอีกครั้ง เนื่องจากราคาสูงกว่าที่หน่วยงานอื่นขอมามาก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook