กทม. เข้มมาตรการ จับ ยึด ช้าง ไม่ผ่อนปรน หวังลดการนำช้างเข้ากรุง

กรุงเทพมหานคร รุกมาตรการจับ-ยึด-ปรับ พร้อมดำเนินคดีแก่เจ้าของช้างอย่างเข้มงวด หวังลดการนำช้างเข้ากทม. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่เดินหน้าโครงการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนภายหลังมีการหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ออกมาตรการ จับ ยึด ปรับ โดยจากการลงพื้นที่ตรวจย่านเพชรเกษมเมื่อวานนี้(18 ส.ค.52) สามารถจับนายสมพร หอมหวล ควานช้างจากตำบลกระโพ จังหวัดสุรินทร์ ได้บริเวณซอยรัชมงคลประสาทศรี พร้อมพังทองดีหรือพังยุ้ย อายุ 20 ปี เลขทะเบียนไมโครชิพ 4 D 000 16334 ซึ่งตั๋วแสดงความเป็นเจ้าของช้างชื่อนายน้อย สุขแสวง อยู่ที่ตำบลกระโพ จังหวัดสุรินทร์เช่นเดียวกัน โดยจากการตรวจทะเบียนประวัติพบว่าตรงกันกับตั๋วแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ในเบื้องต้นยังคงต้องสอบขยายความต่อไป เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้จะต้องเพิ่มความผิดที่ควานช้างฉวยโอกาสพาช้างหลบหนีด้วย เพราะการพาช้างวิ่งด้วยความเร็วในเมืองที่การจราจรพลุกพล่านเป็นอันตรายอย่างยิ่งทั้งต่อตัวช้าง และต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามขณะนี้พังยุ้ยได้ถูกส่งตัวไปที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรีแล้วและจะต้องถูกยึดเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งหากเจ้าของช้างต้องการช้างคืน ต้องนำตั๋วรูปพรรรณสัณฐานที่เป็นต้นฉบับจริงมาแสดงเท่านั้น ทั้งนี้กทม.จะหาที่พักพิงให้แก่ช้างและควานช้างดังกล่าวตามความพอใจของควานช้าง โดยไม่มีการบังคับเพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างถาวรและไม่มีการนำช้างกลับเข้ามาเร่ร่อนในกทม. ด้านนายสัตวแพทย์แดนชัย นุใหม่ สารวัตรกรมปศุสัตว์ กทม. กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้สั่งกักช้างพร้อมตรวจสอบโรค ซึ่งควานช้างจะเป็นผู้ดูแลตลอดเวลาที่อยู่จังหวัดกาญจนบุรี และได้ดำเนินคดีกับเจ้าของช้าง โดยส่งฟ้องศาลแขวงในคดีนำช้างไปท้องที่ต่างจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ มีความผิดตามมาตรา 49 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลได้ในวันนี้