กทม. มั่นใจอุโมงค์ระบายน้ำลาดพร้าว สามารถรองรับน้ำท่วมได้อย่างน้อย 1 - 2 ปี

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุ อุโมงค์ระบายน้ำลาดพร้าว คลองแสนแสบ จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกทม.ได้อย่างน้อย 1 - 2 ปี นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่นายพิจิตร รัตนกุล ผู้อำนวยการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชีย เป็นกังวลในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม โดยแนะแนวทางให้กทม.เพิ่มความสูงของเขื่อนขึ้นอีก 50 เซนติเมตร จาก 280 เซนติเมตร และให้เพิ่มขีดความสามารถในการรับน้ำของแก้มลิงตะวันออก โดยสร้างคันตลอดแนวถนนสมุทรปราการผ่านตำบลบางปู บางปิ้ง และบางปลา อำเภอบางพลี รวมถึงต้องสร้างคันกั้นน้ำทะเลเพิ่มเติมบริเวณบางขุนเทียนถึงสมุทรสาคร ว่า เรื่องดังกล่าวทำให้กทม.เกิดความตระหนักและตรวจสอบซ้ำให้มั่นใจถึงมาตรการต่างๆอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ไม่ใช่ช่วงน้ำทะเลหนุนจึงเหมาะต่อการบริหารจัดการน้ำ แต่ต้องไม่มากจนกระทบต่อประชาชนที่ทำการเกษตรและฟาร์มกุ้ง เพราะเกษตรกรซึ่งใช้น้ำจากเขื่อนจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากปริมาณน้ำฝนตกน้อยกว่าที่คาด แต่หากผันน้ำจากเขื่อนลงสู่ทะเลมากเกินไปจะส่งผลให้น้ำเค็มเป็นน้ำกร่อยส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำริมชายฝั่ง ทั้งนี้ตนเองมั่นใจว่าอุโมงค์ระบายน้ำลาดพร้าว-คลองแสนแสบที่สร้างแล้วเสร็จจะช่วยลดปัญหาและรับมือน้ำท่วมขังได้อย่างน้อย 1 - 2 ปี แต่กทม.จะไม่นิ่งนอนใจ และจะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือกปร. และกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อหาแนวทางดำเนินงานว่าควรแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกทม.ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวอย่างไร นายประกอบ ยังกล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน โดยเริ่มจากไม่ทิ้งขยะมูลฝอยให้อุดตันท่อระบายน้ำ และหากพบเห็นปัญหาที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วม ต้องรีบโทรแจ้ง 1555 เพื่อจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ประการสำคัญที่สุดต้องช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อน และภาวะเรือนกระจก เพื่อให้ปัญหาน้ำแข็งขั้วโลกละลายจนน้ำท่วมสูงและปัญหาสตอร์มเสิร์ชชะลอการเกิดตัวช้าที่สุด