โพลสำรวจชี้ คนไทย 62%หนุนเหล็กต้นน้ำช่วยพัฒนาปท.

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศในหัวข้ออุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย พบว่าประชาชนร้อยละ 58.8 เห็นว่าเหล็กมีความสำคัญมากต่อการพัฒนาประเทศ มีเพียงร้อยละ 1.7 ที่บอกว่ามีความสำคัญน้อย นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 62.1 เห็นว่าเหมาะสมที่ตั้งโรงงานผลิตเหล็กในไทยเพื่อลดต้นทุนการผลิตและช่วยให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเพียงร้อยละ 7.3 เห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะตั้งโรงงาน ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 41.9 มีความเข้าใจว่าเหล็กต้นน้ำคือการตั้งโรงงานผลิตเหล็กขนาดใหญ่ในไทย ประชาชนร้อยละ 7.4 เห็นว่าคือการนำแร่เหล็กมาแปรรูปไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม และในการสำรวจยังพบว่าประชาชนร้อยละ 30.2 รู้ว่าโครงการเหล็กต้นน้ำมีประโยชน์และโทษอย่างไร ร้อยละ 20.5 ต้องการรู้ว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างไรและร้อยละ 11.7 อยากรู้ว่าพื้นที่ตั้งเป็นที่ใด อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 40.2 เป็นห่วงและกังวลว่าโครงการเหล็กต้นน้ำจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายวิกรมกล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวสถาบันจะนำไปศึกษาเชิงลึกของพื้นที่ลงทุนเหล็กต้นน้ำและในปีงบประมาณ 2553 ได้ของบประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อศึกษาพื้นที่ลงทุน 2 แห่งในภาคใต้และภาคตะวันออก ซึ่งระหว่างศึกษาเชิงลึกจะมีนักวิชาการด้านต่างๆ ทำความเข้าใจกับชุมชนด้วย เพราะการลงทุนเหล็กต้นน้ำใช้พื้นที่ประมาณ 1 หมื่นไร่เป็นพื้นที่โรงถลุง 5,000 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่สีเขียว พื้นที่พัฒนาชุมชนและพื้นที่บำบัดน้ำเสีย ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดให้เทคโนโลยีที่นำมาลงทุนต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และให้ผู้ลงทุนมีความรับผิดชอบต่อสังคม