วิเชียรผงาดรักษาการ ผบ.ตร.

วิเชียรผงาดรักษาการ ผบ.ตร.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์คลั่นเป็นที่ยอมรับศาลยกจ่าญาฟ้องธานี

มาร์ค ตั้ง วิเชียร รักษาการ ผบ.ตร. ลั่นเป็นที่ยอมรับและเหมาะสม คำสั่งมีผล 5 ส.ค.นี้ ส่วน พัชรวาท ส่งใบลาราชการนายกฯ 5-14 ส.ค. แต่ขอกลับมาวันที่ 11 ส.ค. ร่วมงานพระราชพิธี ศาลยกฟ้อง คดี จ่าญา ป่าหวาย ผู้ต้องหาลอบฆ่าสนธิ ฟ้อง รอง ธานี กับทีมสอบสวน ชี้เป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย ด้าน ศิริโชค ไม่หวั่นปูดเรื่องบิ๊กตร. เย้ยแค่ตำรวจเลว เทพเทือก เตรียมนัดประชุม ก.ตร.ถกเรื่องโผโยกย้าย

กระแสร้อนกรณีความไม่ลงรอยระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ ผบ.ตร. ที่เกิดขึ้นในช่วงคลี่คลายคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่ง มีการออกหมายจับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหาร หน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี และ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ตำรวจสังกัด บช.ปส. เนื่องจากเกิดข่าวลือเรื่องฝ่ายการเมืองพยายามล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายในวงการสีกากี กระทั่ง ผบ.ตร. เตรียมลาไปราชการที่ต่างประเทศ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วิเชียรรักษาการผบ.ตร.

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรค โดยก่อนเข้าร่วมประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯเข้าอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 45 จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้รายงานให้ทราบว่า ผบ.ตร. ได้ส่งใบลามาแล้ว เมื่อเห็นใบลาแล้วจะเซ็นคำสั่งและทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เมื่อถามว่าคนที่มารักษาการจำเป็นต้องมีความอาวุโสสูงสุดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องดูที่ความเหมาะสม

ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ผบ.ตร. ได้ยื่นหนังสือลาพักเพื่อไปต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 5-14 ส.ค.นี้ แต่ขออนุญาตเดินทางกลับในวันที่ 11 ส.ค. เนื่องจาก มีงานราชพิธีและงานสำคัญอื่น ๆ ซึ่งตนคิดว่าทุกคนเข้าใจดี และในระหว่างที่ ผบ.ตร. ลานั้นตนได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาการแทน ผบ.ตร. และจะมีผลในวันที่ 5 ส.ค.นี้เป็นต้นไป โดยพิจารณาจากการที่ พล.ต.อ.วิเชียร มีความอาวุโส และในภาวะที่คนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เห็นว่าท่านเป็นที่ยอมรับและเหมาะสมในสถานการณ์เช่นนี้

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ เคยพูดว่า ผบ.ตร. ไปต่างประเทศแล้วจะลาต่อเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่า การลาพักของ ผบ.ตร. จะมีผลไปถึงเกษียณหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียร จะทำหน้าที่รักษาการแทนเฉพาะระหว่างที่ ผบ.ตร. ไม่อยู่เท่านั้น

เข้ารับนโยบายนายกฯ ทันที

ต่อมา พล.ต.อ.วิเชียร ได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการในตำแหน่ง ผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.พัชรวาท โดยทั้งสองใช้เวลาหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้น พล.ต.อ.วิเชียรเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 18.05 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมส่งยิ้มและโบกมือให้กับผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะขึ้นรถและเดินทางออกจากทำเนียบฯ โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ผบ.ตร.ปัดให้สัมภาษณ์สื่อ

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลัง ผบ.ตร. ได้ยืนยันว่ายังคงปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร. จนครบอายุเกษียณอายุราชการ โดยวันนี้ ผบ.ตร. เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงาน ผบ.ตร. ชั้น 7 ตามปกติ และปฏิเสธสื่อมวลชนจากทุกสำนัก ที่พยายามสัมภาษณ์ถึงภารกิจไปราชการเข้าพบ ผบ.ตร.ประเทศจีน รวมถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รองผบก. ลงไป

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ ประธานชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ 41 นำจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 4 ส.ค. เรื่อง ขอให้ทบทวนเรื่องผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทรพยายามโยกย้าย ผบ.ตร. ห้พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. รวมถึง ยกเลิกความคิดและเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับ ผบ.ตร. อย่างสิ้นเชิง เพื่อขจัดปัญหาความแตกแยกอย่างรุนแรงในหมู่ข้าราชการตำรวจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากคดีการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. เพียงคนเดียว โดยตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมิได้ใช้มาตรฐานเดียวกัน

บิ๊กอ๊อฟ ชิ่งไปราชการใต้

มีรายงานว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ซึ่งเป็นนายตำรวจดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 1 มีภารกิจไปปฏิบัติราชการพื้นที่ บช.ภ. 8-9 ตั้งแต่วันที่ 4-7 ส.ค.นี้ โดย ผบ.ตร. ได้ลงคำสั่งอนุมัติแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรักษาการ ผบ.ตร. เป็น รอง ผบ.ตร. รองอาวุโสลำดับ 2 เป็นผู้ดำรงตำแหน่งแทน ตาม พ.ร.บ. ตำรวจ ปี 2547 ม.72 (2)

ทั้งนี้ พ.ร.บ.ตำรวจปี 2547 ม.72 (1) ระบุว่า กรณีตำแหน่งข้าราชการตำรวจในส่วนราชการหรือหน่วยงานใดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้บังคับบัญชาดังต่อไปนี้สั่งให้ข้าราชการตำรวจซึ่งเห็นสมควรรักษาราชการแทนในตำแหน่งนั้นได้ โดย (1) นายกรัฐมนตรี สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร.

เทพนัดประชุมก.ตร.ถกโผ

โดยก่อนหน้านั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการแต่งตั้งรักษาการแทน ผบ.ตร. ขณะที่ไม่อยู่ในประเทศ ว่า ตนไม่ได้มองใครเป็นพิเศษ ถือเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะพิจารณาเอง เมื่อถามว่ารักษาการ ผบ.ตร. จะมีอำนาจไปดูเรื่องการจัดโผโยกย้ายของ สตช. หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เขามีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว แต่ตนตอบไม่ได้ว่ามีอำนาจไปดูโผหรือไม่ เพราะไม่ได้ลงไปศึกษารายละเอียดเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้มีการนัดประชุมคณะกรรมการตำรวจ (ก.ตร.) ในเร็ว ๆ นี้เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนเรื่องโผโยกย้าย

ฉุนส.ส.แฉบิ๊กตร.เรียกเงิน

เมื่อถามว่ามีข่าวลือว่าที่ต้องทบทวนการแต่งตั้งโยกย้ายเพราะเด็กฝากบางคนไม่สมหวัง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงตอบเรื่องข่าวลือไม่ได้ เพราะข่าวลือมาก ขอให้เอาข่าวจริงดีกว่า ทั้งนี้เท่าที่ตนทราบก็ไม่มีการจ่ายเงินซื้อตำแหน่งกันและไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้ามีเขาก็ต้องถูกดำเนินคดี เมื่อถามว่านายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีนายพลที่ใกล้ชิด ผบ.ตร. เป็นคนเรียกรับเงิน และมาป้ายสีต่อให้ฝ่ายการเมือง นายสุเทพ กล่าวว่า หากนายศิริโชคพูดอย่างนั้นก็ต้องรับผิดชอบเอง เพราะนายศิริโชคไม่เคยมาบอกอะไรกับตนในเรื่องนี้ แต่บอกผ่านสื่อ วันหลังถ้าผมเจอคุณศิริโชค ผมจะถามว่าที่ไปเที่ยวพูดกับสื่ออย่างนั้นแล้วทำไมไม่ส่งข้อมูลให้ผม

ศิริโชคลั่นไม่หวั่นบิ๊กตร.

ด้านนายศิริโชค ที่มีกระแสข่าวมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดโผโยกย้ายนายพล 152 นาย ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการบังคับใช้โผโยกย้ายนายพลดังกล่าว เพราะยังมีความเห็นเป็น 2 ทาง คือ 1. ต้องรอให้กฎหมาย ปรับโครงสร้างตำรวจมีผลบังคับใช้เสียก่อน หรือ 2. สามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องรอกฎหมายดังกล่าว ถ้าจะนำไปใช้ทันทีก็ติดข้อจำกัดเรื่องมติ ครม. เดิมที่เคยห้าม ผบ.ตร. ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการจัดทำโผแต่งตั้งภายใน 60 วัน ดังนั้น หากจะใช้โผเดิมที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้อนุมัติไว้แล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องนำโผดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้มติยกเลิกมติ ครม. เดิมที่ห้ามไว้ อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีการจัดทำโผโยกย้ายใหม่ ก็ถือว่าเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. คนใหม่ที่จะเป็นผู้จัดโผ

เมื่อถามถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับเงินซื้อขายตำแหน่ง อาจทำให้รัฐบาลขัดแย้งกับตำรวจมากขึ้น นายศิริโชคกล่าวว่า ถ้าจะมีศัตรูเป็นตำรวจเลว ๆ คนหนึ่ง ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะเราทำเพื่อประชาชน อย่างไรก็ดี นายศิริโชคปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวายละเอียดในประเด็นที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดโผโยกย้าย โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า ผมได้พูดไปหมดแล้ว

โต้ส.ว.ยันนายกฯทำตามรธน.

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นให้ กกต. สอบนายกฯ แทรกแซงโผโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทำผิดมาตรา 266(1) ว่า ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะมาตราดังกล่าวระบุถึงการทำหน้าที่ของ ส.ส. และ ส.ว. ไม่ให้ก้าวก่ายการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ไม่ได้ระบุถึงการทำหน้าที่ของนายกฯ และการที่นายกฯ ดูแลกิจการตำรวจถือว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ที่ระบุว่านายกฯ และรัฐมนตรี จะทำการใดที่บัญญัติไว้ในมาตรา 266 มิได้ เว้นแต่เป็นการกระทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงถือว่าเป็นสิทธิที่นายกฯ จะทำได้

ศาลยกจ่าญาฟ้องชุดทำคดี

ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลอบสังหารนายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ มอบอำนาจให้นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวน บช.น. เป็นจำเลยในความผิด ฐานปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำการอันมิชอบเพื่อจะกลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 ความคืบหน้าวันเดียวกันนี้ ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ทำการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(6) และมาตรา 131 เมื่อจำเลยทั้งสองรวบรวมพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นว่าโจทก์เป็นผู้ต้องสงสัยว่าร่วมกระทำผิด จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับโจทก์ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับตามคำขอแล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

วิเชียรลั่นไม่มีวิ่งโผโยกย้าย

ต่อมาเวลา 18.40 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามถึงคดีลอบยิงนายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ท่านก็เป็นห่วง อยากให้คดีเสร็จเรียบร้อยโดยรวดเร็ว ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่กำลังสับสนนั้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า คงต้องดูอีกทีว่าเป็นอย่างไร ไม่สั่งการอะไรเรื่องนี้ รวมถึงการนัดประชุมก.ตร.ก็ไม่ได้พูดถึง ซึ่งในช่วงนี้ตนก็ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ ท่านพูดเพียงแต่ให้ทำหน้าที่ให้ดี ที่ควรจะเป็น ท่านจะพูดหน่อยว่าในเรื่องชื่อเสียงของตำรวจ การซื้อขายตำแหน่งท่านให้ช่วยดู ท่านว่าอย่าให้มันเกิด แต่ช่วงผมรักษาการจะไม่มีการแต่งตั้ง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook