“โควิด-19” จะนำออฟฟิศแบบเดิมในอดีตกลับคืนมา

ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ออฟฟิศของหลายบริษัททั่วโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยสร้างบรรยากาศการทำงานแบบเปิดโล่งที่พนักงานสามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ พร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางที่ดูทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของพนักงาน แต่หลังจากนี้ สภาพแวดล้อมของการทำงานและแบบแปลนของออฟฟิศจะเปลี่ยนไป “ฉากกั้นโต๊ะทำงาน” จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมของพนักงาน ซึ่งเป็นวิธีการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

Geble Clarke ผู้จัดการฝ่ายออกแบบและตกแต่งภายใน บริษัท SGA แสดงความคิดเห็นว่า ในภาวะวิกฤติโรคโควิด-19 โต๊ะทำงานที่นั่งติด ๆ กัน เหมือนในบริษัทด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ จะกลายเป็นสิ่งที่พนักงานไม่ต้องการมากที่สุด เมื่อพวกเขาต้องกลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศ

ขณะที่บริษัทมากมายกำลังวางแผนให้พนักงานกลับมาทำงานในออฟฟิศ สิ่งสำคัญมากที่สุดคือการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทต้องมีมาตรการป้องกันโรคอย่างชัดเจน เช่น การตรวจวัดไข้พนักงานเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปสู่คนอื่น ๆ ขณะเดียวกัน สถาปนิกหลาย ๆ คนก็เริ่มคิดถึงการเปลี่ยนแปลงแบบแปลนของออฟฟิศเพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อด้วยเช่นกัน

“สิ่งแรกและสำคัญที่สุดก็คือ พนักงานต้องการความปลอดภัย พวกเขาจะดูทางเข้าตึก ดูว่ามีการจัดการกับพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้อย่างไร แล้วมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิหรือไม่”  Janet Pogue McLaurin ผู้อำนวยการบริษัทออกแบบและตกแต่งภายใน Gensler กล่าว ซึ่งบริษัท Gensler ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่แสดงวิธีลดความหนาแน่นของออฟฟิศได้สำเร็จ

ทั้งนี้ Clarke และ McLaurin ได้แสดงความคิดเห็นว่าลักษณะของออฟฟิศจะเปลี่ยนไป ดังนี้

• ทางเดินในออฟฟิศจะมีขนาดที่กว้างขึ้น
• ระบบกรองอากาศที่ดีกว่าเดิม
• ระบบลิฟต์ที่ไม่ต้องใช้การสัมผัสแผงควบคุม
• วัสดุที่ใช้ในออฟฟิศหลังจากนี้จะเป็นวัสดุที่สามารถฆ่าเชื้อได้
• ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แม้จะอยู่ในออฟฟิศ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ห้องประชุม

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจัดเตรียม “ผู้ตรวจการด้านสุขภาพ” ที่มีหน้าที่คอยควบคุมและตรวจตราให้พนักงานทำตามกฎการรักษาระยะห่างทางสังคมในออฟฟิศ รวมถึงกฎอื่น ๆ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค อย่างไรก็ตาม งานวิจัยของ Gensler ระบุว่า พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องการทำงานจากที่บ้านมากกว่า