ชี้โครงการ1อำเภอ1ทุนมีปัญหา นร.แห่ขอเปลี่ยนเงื่อนไข มีเด็กถูกถอนทุนเพราะแต่งงานกับคนต่างชาติ

ชี้โครงการ1อำเภอ1ทุนมีปัญหา นร.แห่ขอเปลี่ยนเงื่อนไข มีเด็กถูกถอนทุนเพราะแต่งงานกับคนต่างชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะกรรมการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการตรวจสอบสถานการณ์ของโครงการในรุ่นที่ 1และ2 ที่ได้ให้ทุนนักเรียนไปเรียนต่อในประเทศและต่างประเทศระดับปริญญาตรี ซึ่งมีนักเรียนได้รับทุนรวมประมาณ1,800 คน ได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไปแล้ว 5,000 ล้านบาท และรัฐบาลยังมีภาระต้องจัดงบประมาณเพิ่มเติมอีกในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 5,000 ล้านบาท หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ได้ให้งบประมาณสนับสนุน และเมื่อรวมแล้วโครงการนี้จะใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีนักเรียนที่ได้รับทุน และเรียนจบจำนวน 234 คน แยกเป็นเรียนจบภายในประเทศ 157 คน จบต่างประเทศ 77 คน และแบ่งเป็นนักเรียนทุนรุนแรกเรียนจบ 229 คน ส่วนรุ่น 2 จำนวน 5 นอกจากนี้ยังพบว่ามีนักเรียนที่คะแนนไม่ถึงเกณฑ์และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ตัดสินใจให้ยุติการเรียนในต่างประเทศเพื่อกลับมายนต่อในประเทศไทย 227 คน และมีนักเรียนถูกให้ออกจากการรับทุน 29 รายเนื่องจากจำนวนหนึ่งได้ไปแต่งงานกับชาวต่างประเทศและเมื่อมีคำสั่งให้กลับมาเรียนต่อที่เมืองไทยก็ไม่ยอมจึงจำเป็นต้องสั่งให้ออกจากการได้รับทุนดังกล่าว

รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า ตนยังไม่สามารถสรุปได้ว่าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนนี้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่ที่สรุปได้ชัดตอนนี้คือเป็นโครงการที่มีปัญหามากโครงการหนึ่ง ซึ่งจะต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไปและตนได้ขอให้ชะลอการดำเนินการต่อในรุ่นที่ 3 ไว้ก่อนเพราะโครงการรุ่น 1-2 ก็ยังมีภาระอีก 5,000 ล้าน ส่วนจะให้ยกเลิกโครงการนี้หรือไม่นั้นยังไม่สรุป อย่างไรก็ตามตนได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นชุดหนึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เพื่อพิจารณากำหนดเกณฑ์เงื่อนไขของทุนให้เหมาะสมในกรณีที่นักเรียนขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ที่ผ่านมามีนักเรียนจำนวนหนึ่งได้ขอเปลี่ยนเงื่อนไขและได้มีการอนุมัติไปเป็นรายๆโดยยึดระเบียบเดิม โดยถือว่าผู้เรียนได้ประโยชน์โดยตรง ดังนั้นจะต้องปรับเงื่อนไข เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินงบประมาณมากขึ้น แต่คนที่ยังไม่ทำผิดเงื่อนไข ก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

เงื่อนไขของโครงการในกรณีที่ไปเรียนต่างประเทศคือต้องเรียนให้จบระดับปริญญาตรีภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี และไม่มีข้อผูกมัดว่าต้องมาชดใช้ทุน แต่เมื่อจบแล้วจะต้องกลับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมา มีการยื่นขอเปลี่ยนเงื่อนไขเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น เปลี่ยนสาขาวิชาที่เรียน ขอกลับมาเรียนต่อในไทย หรือขออยู่ต่อต่างประเทศเมื่อเรียนจบแล้ว ทำให้เป็นภาระกับคณะกรรมการโครงการฯ ที่ต้องทำการอนุมัติดำเนินการ นายจุรินทร์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook