รมว.สาธารณสุข ขอความร่วมมือคลินิกที่ไม่พร้อมจ่ายยา ส่งต่อผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ไปยัง รพ.รัฐ

รมว.สาธารณสุข ขอความร่วมมือคลินิกที่ไม่พร้อมจ่ายยา ส่งต่อผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ไปยัง รพ.รัฐ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้คลินิกตรวจรักษาโรคทั่วไปที่ไม่มีความพร้อมในการจ่ายยาและไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไข 8 ข้อ ให้คำแนะนำและส่งต่อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังโรงพยาบาลรัฐทันที นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลเรื่องการกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามีเวียร์ให้คลินิก 50 เม็ดในกรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมโครงการเพียง 31 แห่ง เนื่องจากคลินิกในกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นคลินิกเฉพาะทาง การเข้าร่วมโครงการจ่ายยาต้องมีความพร้อม ตามเงื่อนไข 8 ประการที่คณะอนุกรรมการระดับชาติกำหนด ส่วนต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์ในคลินิกจะทำงานในโรงพยาบาลของรัฐ ขณะนี้มีคลินิกหลายจังหวัดสมัครเข้าโครงการแล้ว บางจังหวัดเข้าร่วมร้อยละ 80 ส่วนใหญ่จะเป็นคลินิกในเขตเทศบาล ดังนั้นคลินิกที่ยังไม่มีความพร้อมไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือ หากมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าไปรักษาตัว ต้องให้คำแนะนำและส่งตัวไปรักษาต่อในโรงพยาบาลของรัฐทันที เพื่อร่วมมือกันลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด นายวิทยา กล่าวอีกว่า การจ่ายยาโอเซลทามีเวียร์ในเด็กเล็ก หากคลินิกไม่สามารถจ่ายได้ ให้ส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที ในวันพรุ่งนี้จะประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาล และนัดหารือการใช้ยาเป็นระยะ นอกจากนี้ยังเตรียมหารือกับกระทรวงแรงงานให้พนักงานที่ป่วยหยุดงาน 7 วันโดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ และไม่ถือเป็นวันลา ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า จะต้องมีการจ่ายยาต้านไวรัสฯ ไปยังคลินิกทุกจังหวัดภายในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 อย่าง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะเปิดรับสมัครและคัดเลือกคลินิกที่มีคุณสมบัติ 8 ข้อตามที่คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติกำหนด ซึ่งจะทราบผลจำนวนคลินิกทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการภายในวันนี้ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งสำรองแล้วแห่งละ 20,000 เม็ด พร้อมจ่ายให้คลินิก และยังมียาสำรองอยู่ที่สำนักงานควบคุมป้องกันโรคประจำเขตแห่งละ 40,000 เม็ด โรงพยาบาลศูนย์แห่งละ 20,000 เม็ด โรงพยาบาลทั่วไปแห่งละ 10,000 เม็ด และโรงพยาบาลชุมชนแห่งละ 2,000 เม็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล