จากการตรวจสอบ ผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าว ทราบชื่อ คือ นายพงศธร เตชะธาดาเดช อายุ 38 ปี อาชีพ ผู้รับเหมาก่อสร้างขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู ทะเบียน ษธ-8750 กทม. โดยนายพงศธร ที่อยู่ในอาการเมาสุรา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ดื่มเบียร์จำนวน 4 กระป๋อง มาจากที่ไซด์งาน ก่อสร้าง ย่านนวมินทร์ แล้ว ขับรถขึ้นทางด่วนเพื่อจะกลับบ้าน ที่สุ แต่มาประสบอุบัติเหตุก่อน เจ้าหน้าที่จึงจับนายพงศธร เป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 179 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถยนต์ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และขับรถในขณะมึนเมาสุรา ซึ่งนายพงศธร ได้ใช้หลักทรัพย์จำนวน 20,000 บาท เพื่อยื่นขอประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว นายพงศธร ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ ช่วงเช้าวันที่ 31 ก.ค. ต่อไป
ด้านพ.ต.ท.ศุภกฤษเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ หลังจาก ด.ต.เนตร ขับรถพา พล.ต.ต.วิชัยและตนไปทำธุระเสร็จแล้วก็ได้ขับขึ้นทางด่วนประชาอุทิศ ระหว่างนั้น สังเกตเห็นว่า รถกระบะอีซูซุวิ่งมาด้วยความเร็วสูงแข่งกับรถกระบะอีกคัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถคันดังกล่าวเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนท้ายรถตราโล่ด้านขวา ทำให้รถที่ตนนั่งมาเสียหลักพุ่งชนขอบทางแล้วหมุนคว้างหลายรอบก่อนจะจอดพลิกตะแคงขวางถนน หลังจากพวกตนทั้ง 3 คนก็คลานออกมาจากตัวรถ
ขณะที่แพทย์เปิดเผยอาการของ พล.ต.ต.วิชัย ว่า ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ มีอาการเจ็บหน้าอก และลำคอ อาเจียนไม่หยุด แต่ต้องเฝ้าดูอาการใกล้ชิด เนื่องจากศีรษะ และหน้าอกได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนลูกน้องคนสนิท บาดเจ็บเล็กน้อย
สำหรับ พล.ต.ต.วิชัย ได้รับฉายาว่า เป็นมือปราบหุ และยังเป็นหัวหน้า หน่วยสายตรวจจู่โจมพิเศษ หรือชุด ปะ ฉะ ดะ ที่นำมาปรับโฉมใหม่ให้ดูเข้มแข็งเข้มข้นไว้ลุยกับเหล่าอาชญากรในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และยังต้องรับมือสารพัดม็อบเขย่ารัฐบาลต่างๆ ด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้พิพากษาจำคุก นายพงศธร ในความผิดฐานขับรถในขณะมึนเมาสุรา เป็นเวลา 4 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน แต่ให้รอลงโทษเป็นเวลา 2 ปี ปรับ 5,000 บาท คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติและเข้ารับการอบรม 4 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับในส่วนความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและอันตราย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งสำนวนฟ้องในคดีอาญาต่อไป