ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 30,000 รายแล้ว

นิวยอร์ก, 16 เม.ย. (ซินหัว) — ข้อมูลซึ่งรวบรวมโดยศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ ทะลุ 30,000 ราย เมื่อนับถึงเวลา 23.53 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันพุธ (15 เม.ย.)

ศูนย์ฯ รายงานยอดป่วยสะสมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 639,664 ราย และยอดผู้เสียชีวิต 30,985 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นเกิน 2,600 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ข้อมูลของศูนย์ฯ ระบุว่ารัฐนิวยอร์กรายงานผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 14,064 ราย ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ ส่วนรัฐนิวเจอร์ซีย์รายงานผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,156 ราย รัฐมิชิแกน 1,921 ราย และรัฐแมสซาชูเซตส์ 1,108 ราย

เมื่อวันพุธ แอนดรูว์ คัวโม (Andrew Cuomo) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่าเขาจะกำหนดให้ประชาชนทุกคนในรัฐต้องสวมผ้าปิดปากในที่สาธารณะเสมอ หากไม่สามารถอยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 6 ฟุต (ราว 1.8 เมตร)

“วันนี้ผมได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับหนึ่งซึ่งกำหนดให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดปาก หากไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้” ผู้ว่าการรัฐฯ ทวีตข้อความ

ตัวอย่างเช่น หากกำลังใช้บริการรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเว้นระยะห่างทางสังคม หรือขณะเดินบนทางเท้าที่มีคนพลุกพล่าน “คุณต้องสวมผ้าปิดปากอย่างผ้าพันคอ หรือสวมหน้ากากอนามัย” คัวโมระบุ

ข้อมูลเสริมว่าเมื่อเทียบกันทั่วโลก ขณะนี้สหรัฐฯ มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงที่สุด ส่วนสเปนรายงานยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18,812 ราย และอิตาลี 21,645 ราย

ส่วนผู้ป่วยที่หายดีในสหรัฐฯ อยู่ที่ 52,699 ราย เมื่อนับถึงปัจจุบัน