โกร่งฟันฉับปีนี้ไทยไม่พ้นปากเหว คาดท่องเที่ยวซบเซายาวอีก2ปี
เศรษฐกิจของไทยยังมองไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวในเร็ววันนี้ เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านเข้ามากระทบ ส่วนโครงการลงทุนไทยเข้มแข็ง ยังไม่เห็นความชัดเจน มีเพียงการนำส่งเงิน 2 แสนล้านบาท เข้าชดเชยการขาดดุลงบประมาณเท่านั้นที่เป็นรูปธรรม เพราะเป็นเพียงการเขียนเช็คเปล่าขอกู้เงิน 8 แสนล้านบาท เป็นผลงานที่ชัดเจนที่สุดในขณะนี้ แต่ยังไม่เห็นแผนการลงทุนว่าจะนำไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง จึงไม่รู้ว่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีได้อย่างไร แม้ช่วงนี้ฟื้นตัวขึ้นไปบ้าง เดี๋ยวก็ตกลงมาอีกครั้ง จึงยังไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะฟื้นตัวจนพลิกมาเป็นบวกได้ นายวีรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้เป็นห่วงปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะรัฐบาลยังไม่มีแผนป้องกันและแก้ไขด้วยการออกมาตรการต่างๆ ที่ชัดเจน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้าประเทศ โดยเห็นว่าควรหาแนวทางให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เพราะรัฐบาลจีนห้ามคนจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทำให้กระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวเนื่องจากเป็น กลุ่มที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศสูงมาก จึงอยากให้รัฐบาลแสดงความจริงใจกับการแก้ไขโรคดังกล่าวให้มากกว่านี้ และรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในเรื่องของการส่งออก สร้างความชัดเจนเรื่องการลงทุน
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองต่อเนื่องตั้งแต่ปิดสนามบินมาถึงปัจจุบัน ถือว่าตกต่ำสุดในรอบ 49 ปี โดยปีนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงจาก 14.4 ล้านคนเหลือ 10.8-11 ล้านคน ลดลง 22% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาลดลงไปแล้ว 22% และน่าจะหดตัวลงอีกในไตรมาส 3 โดยเฉพาะสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ส่งผลให้การเดินทางทั่วโลกลดลง 4%
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวบรรยายพิเศษที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) จ.พิษณุโลกว่า ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวยังไม่เห็นทางสว่างยิ่งประสบกับปัญหาไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่จะซบเซาไปถึงปลายปี53 โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เว้นแต่จังหวัดชายทะเลเช่น ภูเก็ต จะไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นในภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นจริง
