มาร์คเรียกแกนนำรบ.ถกด่วน
จากนั้นนายสุเทพ ได้ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ยืนยันว่าไม่มีการหารือกับนายกฯ เรื่องคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ไม่ได้มาพบตน แต่มาร่วมประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการหยิบยกคดีดังกล่าวมาหารือ โดยสื่อไปดูวาระการประชุมได้เพราะมีอยู่แล้ว
ต่อมา นายไตรรงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ ได้เรียกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ในฐานะที่ตนเป็นนักวิชาการอิสระ และทำงานด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งเป็นการหารือประจำอยู่แล้ว ซึ่งตนมาเป็นประจำแต่สื่อไม่เห็นตนเอง ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 4 ถือเป็นการนัดประชุมปกติ ของทีมงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อประเมินวิเคราะห์สถานการณ์แนวนโยบายของรัฐบาลและการออกมาตรการที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้หารือกรณีเรื่องการถือครองหุ้นที่ กกต.จะวินิจฉัยในวันที่ 23 กค.นี้หรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่มีเลย สาบานต่อหน้าพระพรหมได้ ไม่มีการพูดถึงเรื่องหุ้น ทุกอย่างชัดเจนไม่เห็นมีอะไร ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เรื่องหุ้นพูดกันครั้งเดียวก็จบแล้ว ยืนยันว่าตนไม่ลาออกจากการเป็นส.ส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ตนยึดหลักนิติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการหารือถึงปัญหาเกาเหลาในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี ส่วนใหญ่คุยเรื่องนโยบายหลักของรัฐบาล เป็นการถามเหตุผลทางวิชาการของตนมากกว่า ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมมาตรการเพื่อออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะออกมาในช่วงระยะเวลาใด มากน้อยแค่ไหนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ยืนยันว่าไม่มีการปรับทำความเข้าใจในทีมเศรษฐกิจเพราะไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาเกาเหลาก็ไม่มี ไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า ตนไม่เห็นรู้เรื่องและไม่เห็นใครพูดในที่ประชุม ทุกคนก็ดี ๆ กันอยู่
เมื่อถามว่า ขณะนี้ปัญหารุมเร้ารัฐบาลการที่นายกฯ เรียกประชุมแกนนำด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ บ่งบอกถึงนัยยะอะไรหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่มีนัยยะอะไร เพราะตนเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขณะนี้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาลก็ดำเนินการไปตามขีดความสามารถของประเทศ ขณะนี้ขีดความสามารถของประเทศไม่ดีเท่าไหร่ และนโยบายของรัฐบาลบางอย่างประชาชนเริ่มเห็นผลแล้ว แต่ที่เหลือในเงินกู้ 4 แสนล้านบาทรัฐบาลจะนำไปลงทุนในโครงการที่เป็นปัจจัยพื้นฐานหลักที่จะทำให้ประเทศมีศักยภาพการแข่งขันเพิ่มขึ้นหลังจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น เช่น การลงทุนด้านรถไฟรางคู่ การสร้างท่าเรือน้ำลึก การปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ รัฐบาลจำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างหลักเพื่อกระตุ้นศักยภาพของประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นสภาพปกติคาดว่าเป็นปีหน้า ปัญหาที่เศรษฐกิจไทยทรุดขณะนี้เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลก
ต่อข้อถามว่าเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดใช่หรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่มีลิงที่ไหนจะแก้ได้ รัฐบาลเล็ก ๆ อย่างรัฐบาลไทยจะไปแก้ให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่ขณะนี้เราต้องรักษาสถานภาพของประเทศให้ตกต่ำน้อยที่สุด ให้โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็แก้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปีหน้าตัวเลขอัตราการเจริญด้านเศรษฐกิจจะขึ้นมาอยู่ในแดนบวก เชื่อว่ามาตรการเสริมของรัฐบาลที่จะชะลอการกู้เงินจากต่างประเทศ 3 แสนล้านให้แบงก์รัฐทำแผนการปล่อยกู้ให้เอกชนให้เกิดความชัดเจนจะเป็นตัวเสริมทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะธนาคารไม่ค่อยปล่อยเครดิต ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้เกิดความมั่นใจให้แบงก์ปล่อยกู้ให้มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจที่พอไปได้ในยามเศรษฐกิจไม่ดีมีทุนในการดำเนินการ ถ้าแบงก์ปล่อยกู้ทำให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถรักษารตัวให้รอดไปจนถึงปีหน้าที่เศรษฐกิจจะดีขึ้น
ด้าน นายกอร์ปศักดิ์ ซึ่งมีข่าวว่าเกาเหลากับนายกรณ์ ได้เดินออกมาพร้อมกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตนเข้าไปดูเรื่องที่จะต้องชี้แจงกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับพรรค เรื่องเงินบริจาคของพรรค 258 ล้านบาท ซึ่งพรรคยังไม่ส่งเอกสารไปชี้แจงกับ กกต. ทั้งนี้ก็ต้องชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง.