หัวอกแม่! ทำได้เพียงเฝ้าดูลูกชายเรียนอยู่ที่จีนผ่านวิดีโอคอล ภาวนาให้พ้นวิกฤตไวรัสโคโรนา

หัวอกแม่! ทำได้เพียงเฝ้าดูลูกชายเรียนอยู่ที่จีนผ่านวิดีโอคอล ภาวนาให้พ้นวิกฤตไวรัสโคโรนา

หัวอกแม่! ทำได้เพียงเฝ้าดูลูกชายเรียนอยู่ที่จีนผ่านวิดีโอคอล ภาวนาให้พ้นวิกฤตไวรัสโคโรนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ค้าดอกไม้ชาวระยอง ทำได้เพียงเฝ้าดูลูกชายที่ไปเรียนที่จีนผ่านวิดีโอคอล หลังต้องเจอกับวิกฤตไวรัสโคโรนา คาดอีกไม่นานเมืองฉงชิ่งคงถูกสั่งปิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (27 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพบเรื่องราวความรักความห่วงใยของแม่ค้าขายดอกไม้ กับความรู้สึกสุดห่วงลูกชายไปเรียนที่ประเทศจีนต้องพบเจอกับวิกฤตไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ ที่กำลังระบาดหนัก โดยขอเห็นหน้าลูกชายผ่านระบบวิดีโอคอลบนจอโทรศัพท์ตลอดทั้งวัน 

นางจอมศรี ใจแก้ว อายุ 52 ปี แม่ค้าขายดอกไม้สดในตลาดสดชากกลาง เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง ได้วิดีโอคอล กับ นายพรชัย ใจแก้ว อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและธุรกิจฉงชิ่ง สาขาการจัดการการท่องเที่ยว ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ด้วยความเป็นห่วงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ ซึ่งเมืองฉงชิ่ง อยู่ไม่ไกลจากเมืองอู่ฮั่นที่ไวรัสโคโรนากำลังระบาดหนักจึงยิ่งทำให้เกิดเป็นกังวลและห่วงมาก

โดยนายพรชัย ได้พูดคุยกับผู้เป็นแม่เล่าถึงสถานการณ์ ณ ตอนนี้ว่าผู้คนเดินจากที่เคยเดินพลุกพล่านขณะนี้มีคนออกมาค่อนข้างน้อย ซึ่งจากแต่ก่อนตามห้างสรรพสินค้าคนจะเดินจับจ่ายใช้สอยกันเยอะมากๆ

แต่ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าและร้านขายของที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยฯ บางห้างบางร้านมีการปิดร้าน บางร้านก็เปิด อย่างล่าสุดมีรุ่นพี่ไปห้างห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่งก็ปิดเงียบหมด และเมื่อวานก็ไปกินข้าวข้างนอกมา แต่ตามหาร้านขายข้าวยากมาก เหมือนจะมีร้านเดียวที่เปิดแถวๆ หน้ามหาวิทยาลัย 

นายพรชัย เล่าว่า จากที่ตามข่าวของเมืองฉงชิ่ง ขณะนี้น่าจะมีคนติดเชื้อประมาณ 57 คน แล้วซึ่งทางมหาลัยได้ประกาศห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย ถ้าจะเข้าต้องมีใบอนุญาต

ส่วนนักเรียนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยถ้าจะออกก็ต้องแสดงใบประจำตัวนักเรียนให้ดูก่อน ซึ่งตอนนี้เข้มงวดมาก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฉงชิ่งได้ประกาศปิดชั่วคราวแล้ว และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าอีกไม่นานนี้เมืองฉงชิ่งก็คงต้องประกาศปิดเมือง 

อย่างไรก็ตาม นี่คือความรู้สึกที่แสดงออกถึงความเข้มแข็งของผู้เป็นแม่ ที่ทำได้แค่เพียงเฝ้าดูลูกด้วยความเป็นห่วงผ่านวีดีโอคอลระบบวีแชทกับลูกชาย ที่ต้องไปพบเจอกับวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ประเทศจีน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook