เนวิน เสนอตัวอารักขา อภิสิทธิ์ เยือนอีสาน! ระดมตร. 3 พันนาย รปภ.-เสื้อน้ำเงินสมทบ

เนวิน เสนอตัวอารักขา อภิสิทธิ์ เยือนอีสาน! ระดมตร. 3 พันนาย รปภ.-เสื้อน้ำเงินสมทบ

เนวิน เสนอตัวอารักขา อภิสิทธิ์ เยือนอีสาน! ระดมตร. 3 พันนาย รปภ.-เสื้อน้ำเงินสมทบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เนวิน"โต้โผใหญ่บัญชาการคุมความปลอดภัย"มาร์ค"เยือน"บุรีรัมย์"เอง จัดตร."เสื้อน้ำเงิน"ชุดเดียว"พัทยา"ร่วมอารักขา "โสภณ"เปิดบ้านเลี้ยงข้าวหลังเสร็จงาน พท."ขู่"เสื้อแดง"โผล่รับนายกฯ ภาวนาอย่าทุบรถอีก

"เนวิน"คุมความปลอดภัย"มาร์ค"เอง

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า การลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 กรกฎาคม ได้มีการเตรียมกำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ประมาณ 3,000 คน มารักษาความปลอดภัย โดยจะมีตำรวจบางส่วนสวมเสื้อน้ำเงินปกป้องสถาบันของ กระทรวงมหาดไทย เหมือนที่เคยทำมาแล้วที่สนามบินสุวรรณภูมิ และที่โรงแรมรอยัลคลีฟบีช พัทยา ชลบุรี ที่มีชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีน้ำเงินดูแลพื้นที่จนเกิดการปะทะกับกลุ่มเสื้อแดง ที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อเนวิน พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่สังเกตการณ์ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 9-10 เมษายนที่ผ่านมาด้วยตัวเอง โดยตำรวจที่จะปฏิบัติการครั้งนี้เป็นชุดเดียวกับที่พัทยา ส่วนใหญ่เป็นตำรวจมาจาก จ.นครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ซึ่งนายเนวินจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ของนายเนวิน นอกจากนี้มีรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากพื้นที่ข้างเคียง โดยเฉพาะ จ.อุดรธานี ขอนแก่น และสกลนคร ซึ่งมีกลุ่มเสื้อแดงเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์

พ่อเมืองบุรีรัมย์ยันคนพื้นที่ดีใจ

ด้านนายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีการเตรียมการต้อนรับดูแลนายกรัฐมนตรีอย่างดีที่สุด ส่วนการตรวจเยี่ยมดูงานตามสถานที่ต่างๆ จะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ ทุกอย่างจะคงอยู่ในสภาพความเป็นจริง และหลังจากที่ประชาชนทราบว่านายอภิสิทธิ์จะเดินทางมา ต่างพากันตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสจะได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ถือเป็นโอกาสที่ดีของชาวบุรีรัมย์ และทุกคนมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส่วนเรื่องแผนความปลอดภัยตนไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบ จึงไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องของตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบและถือเป็นเรื่องของความมั่นคงของผู้นำประเทศ

"โสภณ"ลั่นพร้อมรับ"อภิสิทธิ์"

ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในพื้นที่เตรียมความพร้อมหมดทุกด้านเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของโครงการต่างๆ ที่นายอภิสิทธิ์จะไปติดตามงาน เมื่อนายอภิสิทธิ์ไปถึงจะมอบห้องสมุดรถไฟ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และการศึกษานอกโรงเรียน ร่วมกันปรับปรุงตู้รถไฟเก่าให้เป็นห้องสมุดสำหรับประชาชน จากนั้นจะไปดูโครงการมหกรรมสุขภาพ และการยกระดับสถานีอนามัย ให้มีการรักษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ร่วมกันโรงพยาบาลประจำอำเภอ จากนั้นจะชมเรื่องเทคโนโลยีการเกษตรและสุดท้ายโครงการถนนไร้ฝุ่น ซึ่งนายอภิสิทธิ์ จะได้เดินทางไปรับประทานอาการที่บ้านพักของตน

"ซึ่งนายอภิสิทธิ์จะรู้เลยว่าแม้กระทั่งถนนไปบ้านพักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังจำเป็นจะต้องทำโครงการถนนไร้ฝุ่น เนื่องจากถนนเข้าบ้านพักของผม ยังเป็นดินลูกรังและยังไม่ได้ลาดยาง ประชาชนชาว จ.บุรีรัมย์ ตื่นเต้นกับการเดินทางมาลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ ยังรับที่จะเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลความเรียบร้อย อยากจะขอร้องคนเสื้อแดงว่าอย่ามาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะที่ผ่านมาได้สร้างปัญหามามากแล้ว รวมทั้งบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ควรจะประกาศว่าจะมีคนเสื้อแดงมาต้อนรับนายอภิสิทธิ์ เพราะขณะนี้ประชาชนทั่วไปรู้แล้วว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนทั้งหมด" นายโสภณกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเนวินจะมาคอยควบคุมการลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์เหมือนช่วงที่พรรคภูมิใจไทยลงพื้นที่ จ.สกลนคร หรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า นายเนวินไม่ได้มาร่วมงานนี้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายเนวิน

"พายัพ"สั่งพท.แยกบทบาทเสื้อแดง

ด้าน นายโสภณ เพชรสว่าง ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ จ. บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรี ว่า นายพายัพ ชินวัตร ประธานภาคอีสาน พท. แจ้งผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้ง 10 คนว่า ไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ทราบว่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ. บุรีรัมย์ ได้นัดประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการนำมวลชนเสื้อแดง 2,000 คน ไปรอต้อนรับคณะของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสาเหตุที่มีจำนวนน้อยเพราะต้องการไปแหย่เฉยๆ ส่วนจะมีมาตรการต่อต้านรัฐบาลอย่างไร ตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิดของนายเนวินได้พยายามประสานงานขอให้กลุ่มคนเสื้อแดง จ.บุรีรัมย์ ยุติความเคลื่อนไหว แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ไม่เกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์แต่อย่างใด

"วันนี้ผู้สมัคร ส.ส.พท.เดินหน้าทำกิจกรรมในพื้นที่เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องที่เขาว่ากันไป ต้องแยกบทบาทกันทำ แต่ทั้ง 2 ส่วนมีเป้าหมายเหมือนกันคือให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่เชื่อว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีจะทำให้ ภท. และพรรคประชาธิปัตย์มีเรตติ้งในภาคอีสานดีขึ้น เพราะนายเนวินไม่ได้มีบารมีสามารถชี้เป็นชี้ตายให้ใครได้ แต่อาศัยบารมี พ.ต.ท. ทักษิณ ทำพื้นที่ จ. บุรีรัมย์ ซึ่งชาวบ้านก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร" นายโสภณกล่าว

พท."ขู่"เสื้อแดง"โผล่รับนายกฯ

ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย รองประธานภาคอีสาน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับ ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายอภิสิทธิ์ เป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายเนวิน จะทำให้นายอภิสิทธิ์เห็นว่าภาคอีสานมีเพียงดอกไม้ พวงมาลัย และผ้าขาวม้า แต่ไม่มีอย่างอื่น ซึ่งนายอภิสิทธิ์ควรเตรียมตัวในการลงพื้นที่ให้ดี และอย่าตกใจหากมีคนเสื้อแดงภาคอีสานและคนเสื้อแดงบุรีรัมย์ไปให้การต้อนรับ เพราะการเคลื่อนไหวทางการเมืองถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทยทำได้แค่ภาวนาไม่ให้คนเสื้อแดงไปทำอะไรที่ผิดต่อกฎหมาย หรือทุบรถทุบของนายกรัฐมนตรีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเท่านั้น
จัด"กตัญญูทักษิณ"ลงแข่ง"คนทรยศ"

นายไพจิตกล่าวว่า ส.ส.ภาคอีสานส่วนใหญ่ สะท้อนความคิดเห็นของชาวบ้านต่อการเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ ที่ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะทำให้ประชาชนคนอีสานเห็นชัดเจนมากขึ้นถึงความสัมพันธ์ของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวบ้านจะได้รู้ไปเลยว่า หากฝากอนาคตไว้กับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้พรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ลงพื้นที่ภาคอีสานโดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพอีกหลายพื้นที่ เพราะประชาชนคนอีสานรู้สึกกดดันจากการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์มากขึ้น

"การลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ชัดเจนว่าแผนการที่พรรคประชาธิปัตย์วางเอาไว้ว่าจะบุกพื้นที่ภาคอีสานตรงนั้นตรงนี้มันเป็นแค่ภาพลวงตาประชาชน เพื่อปิดบังซ่อนเร้น ให้คนอีสานลืมภาพที่นายเนวินไปสวมกอดกับนายอภิสิทธิ์ แต่ในความเป็นจริงทุกอย่างยังเป็นไปตามยุทธศาสตร์เดิมคือ พรรคประชาธิปัตย์มอบอำนาจให้พรรคภูมิใจไทยเป็นคนทำพื้นที่ภาคอีสาน" นายไพจิตกล่าว และว่า ภาคอีสานพรรคเพื่อไทย ได้ข้อสรุปเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานอีก 20 กว่าคน ในพื้นที่ที่ว่างอยู่ หลังจากที่ ส.ส.ได้ย้ายพรรคไปอยู่พรรคภูมิใจไทย โดยพรรคจะคัดเลือกเอาคนที่ไม่ต้องเก่งมากแต่ไม่ทรยศหักหลังใคร เพื่อแข่งขันกับคนที่ทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณไป เพราะเชื่อว่าคนอีสานส่วนใหญ่ยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่ชอบคนที่ทรยศหักหลัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook