พระสายอาร์ต “พระสุธีรัตนบัณฑิต” เจ้าอาวาสวัดสุทธิฯ หวังใช้ศิลปะเป็นประตูสู่ศาสนา

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โพธิ เธียเตอร์ หรือ Bodhi Theatre เป็นอีเวนต์เล็กๆ อีเวนต์หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วไป เพราะทุกรอบของนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตนี้ถูกจองเพื่อเข้าชมจนต้องเพิ่มรอบพิเศษ
>> "โพธิเธียเตอร์" ครั้งแรกของนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตสุดล้ำในอุโบสถ! เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ถึงแก่นพุทธ

โดยปกติการฉายหนังในวัดไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สำหรับการจัดฉายแสงสีเสียงในพระอุโบสถวัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ นั้นถือเป็นไอเดียล้ำซึ่งเกิดจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ เห็นพ้องต้องกัน เป้าหมายสำคัญของอีเวนต์นี้ก็หวังเพียงจะใช้ศิลปะเป็นประตูให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพุทธศาสนาได้นั่นเอง

พระสุธีรัตนบัณทิต เจ้าอาวาสนักพัฒนาที่มุ่งหวังจะทำให้วัดสุทธิวรารามเป็นสถานที่ที่ได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านกายภาพเป็นวัดที่สวยงาม สะอาด ด้านสังคมและการเรียนรู้ และรวมไปถึงเป็นพื้นที่ทางจิตใจ จึงเกิดเป็นโครงการ การให้บริการต่างๆ ต่อประชาชนมากมายไม่ว่าจะเป็นการเปิดอาคารหนึ่งในวัดให้บริการที่พักฟรีสำหรับผู้ที่เดือดร้อนเรื่องที่พักเมื่อต้องเดินทางมาพักภายในกรุงเทพฯ มหานคร รวมไปถึงระบบการเผาศพที่นำสารไกอามาใช้ เพื่อช่วยลดการสร้างมลพิษที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หรือแม้กระทั้งที่วัดมีคอร์สปฏิบัติธรรมปฏิบัติธรรม ซึ่งมีเครื่องวัดคลื่นทางสมองระหว่างนั่งสมาธิ ความน่าสนใจนี้ทำให้ให้มหาวิทยาลับเมืองชิบะประเทศญี่ปุ่นมาขอถ่ายทำรายการ

ล่าสุดกับอีเวนต์จัดนิทรรศการศิลปะดิจิทัลโพธิ เธียเตอร์ ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่พระนักพัฒนาผู้นี้มุ่งหวังให้ศิลปะเป็นเครื่องมือ จุดเริ่มต้นในการนำทุกคนเข้าสู่พุทธศาสนา ลองมาฟังบทสัมภาษณ์ รวมไปถึงการพูดถึงบทบาทของพระสงฆ์ในปัจจุบัน รวมไปถึงอะไรคือหัวใจหลักสำคัญของพุทธศาสนาผ่านมุมมองของพระนักพัฒนาท่านนี้กัน

สำหรับพระสุธีรัตนบัณฑิต (สุทิตย์ อาภากโร) นอกจากท่านจะเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ แล้วท่านยังเป็นผอ.สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อีกด้วย

ประวัติของท่านเป็นคนเชียงรายโดยกำเนิด ก่อนจะบวชที่วัดสุทธิวรารามตอนอายุ 13 ปีกระทั่งอายุย่าง 20 ก็ลาสิกขาไปทำเรื่องทำบัตรประชาชน ทำเรื่องเกณฑ์ทหาร ตอนแรกท่านตั้งใจว่าถ้าได้เป็นทหารก็จะเป็นทหารไปเลย แต่ถ้าไม่ได้ก็ตั้งใจจะกลับมาบวชต่อ ในระหว่างกลับมาบวชต่อนั้นก็มีบ้างที่จิตใจคิดอยากสึก แต่เพราะเป็นคนต่างจังหวัดพอมาอยู่กรุงเทพฯ ไปไหนไม่เป็น จึงไม่ได้หลงไปกับแสงสี เลยทำให้บวชเรียนอยู่จนกระทั่งอายุถึงกว่า 30 ปี

ในช่วงหลังเรียนจบปริญญาเอกใหม่ๆ ท่านเองก็มีความคิดอยากลาสิกขาเพื่อไปเป็นอาจารย์ซึ่งเป็นอาชีพในฝัน แต่เมื่อหลวงพ่อซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์เดิมของวัดสุทธิมีอายุมากขึ้น ท่านก็เริ่มป่วย พระสุธีรัตนบัณฑิตจึงรู้สึกเป็นห่วง เลยตัดสินใจเลือกดูแลหลวงพ่อและเดินทางสายนี้แทนการไปเป็นอาจารย์

ปัจจุบันพระสุธีรัตนบัณฑิตเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม กรุงเทพฯ มาได้ 7 ปีแล้ว และยังคงมุ่งมั่นเรื่องการพัฒนาสังคม การพัฒนาพื้นที่ รวมถึงในอนาคตท่านยังอยากเห็นพื้นที่วัดเป็นพื้นที่สำหรับศิลปะที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของศรัทธา
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี




