ความพร้อมครั้งใหม่...ในการประชุมอาเซียน

ความพร้อมครั้งใหม่...ในการประชุมอาเซียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังจากที่ประสบกับความติดขัดและปัญหาจากการชุมนุมที่เกิดการปะทะกันจนทำให้การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา หรืออาเซียน +3 +6 เมื่อกลางเดือนเมษายน ณ เมืองพัทยา ต้องเลื่อนกำหนดออกมา ในครั้งนี้รัฐบาลพยายามใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างรัดกุมที่สุดในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อดูแลการการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ระหว่างวันที่ 10 24 กรกฎาคม ณ จ.ภูเก็ต ความจำเป็นในการใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงในราชอาณาจักร ฝ่ายความมั่นคงประมวลข้อเท็จจริง เห็นว่า ควรนำ พ.ร.บ ความมั่นคงในราชอาณาจักรเป็นเครื่องมือ เพื่อนำมาบูรณาการการทำงานระหว่างทหารและตำรวจให้สามารถสกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนช่วงเดือนเมษายน ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยจะดูแล จ.ภูเก็ต และพื้นที่โดยรอบ 5 กิโลเมตร และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากสิ่งที่ต่างชาติต้องการเห็นคือความเรียบร้อยในการจัดการประชุม ดังนั้นประชุมคณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบหลักการใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในการดูแลความปลอดภัยในช่วงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีให้ความเชื่อมั่นว่าการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน หลังจากที่มีบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เมืองพัทยา โดยการยกร่างกฎหมายได้ให้อำนาจคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ความเป็นไปได้ของวิธีการ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าฝ่ายดูแลรักษาความปลอดภัยได้ตรวจสอบแล้วและเห็นว่าถ้ามีการนำ พ.ร.บ. นี้มาเป็นเครื่องมือจะเอื้อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยคือ 1.ในแง่ของการใช้บุคลากรในฝ่ายต่าง ๆ ค่อนข้างทำได้อย่างครอบคลุม 2.มีอำนาจที่สามารถใช้ได้ตามกฎหมายความมั่นคงที่จะช่วยสกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม นางพรทิพย์ จาละ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่าไม่สามารถประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายยังไม่เกิดขึ้น ต้องให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน แต่ในขณะเดียวกันนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวให้ความเห็นว่าทางรัฐบาลสามารถประกาศได้ โดยอ้างการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงว่าอาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นว่าในการประชุม ครม.วันที่ 9 ก.ค. 52 นี้ คณะรัฐมนตรีจะประกาศใช้กฎหมายความมั่นคง 3 ฉบับ เพื่อให้มีผลในวันที่ 10 ก.ค. 52 คือ ร่างประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่างประกาศให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายให้ กอ.รมน.มีอำนาจ และร่างข้อกำหนดออกตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โอกาสครั้งใหม่ หลังจากที่ผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำจากประเทศคู่เจรจาต้องประสบกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ณ เมืองพัทยา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ของทั้งประเทศและรัฐบาลเสียหายไปอย่างมาก แต่ก็ยังมีโอกาสให้ประเทศไทยได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ภายในประเทศได้คลี่คลายลงแล้ว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นว่าหากการประชุมในเดือนกรกฎาคมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจะช่วยทำให้หลายฝ่ายที่ยังติดกับภาพช่วงเดือนเมษายนเนื่องจากไม่มีโอกาสรับรู้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังเช่นที่สำนักข่าวแห่งชาติได้เคยย้ำเสมอมาเกี่ยวกับการประชุมอาเซียนหรือการเกิดเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในประเทศไทยว่า เพียงแค่การบริหารจัดการของรัฐบาลที่ดีนั้นยังไม่พอ ความพร้อมนั้นย่อมหมายถึงความพร้อมเพรียงของคนในชาติที่จะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีไมตรีต่อผู้มาเยือนด้วย ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อพี่น้องชาวไทยด้วยกันเอง ที่จะได้รับประโยชน์มากมายจากการที่สามารถรักษาภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไว้ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook