อนุพงษ์ดูแลผู้พิพากษา-ตุลาการ ชายแดนใต้เต็มที่ ปัดโต้บิ๊กจิ๋วแฉขบวนการบีอาร์เอ็นจม.เปิดผนึก

อนุพงษ์ ยันดูแล คณะผู้พิพากษาและคณะตุลาการ ในพื้นที่ชายแดนให้เต็มที่โดยเฉพาะเป้าหมายที่อ่อนแอป้องกันตัวเองไม่ได้ ออกมาแฉว่าขบวนการบีอาร์เอ็น ทำจดหมายเปิดเผยผนึกแฉว่ารัฐบาลได้ให้ประเทศมาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจาปัญหาภาคใต้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 07.30 น. ที่กองการบินกรมขนส่งทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกระแสข่าวกลุ่มก่อการร้ายหมายหัวลอบยิงคณะผู้พิพากษาและคณะตุลาการในพื้นที่ว่า กลุ่มบุคคลที่สำคัญทั้งหลายได้พูดคุยกันว่าจะมีมาตรการดูแลในช่วงที่ผ่านมาแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเป้าหมายมีความอ่อนแอและป้องกันตัวเองไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแฉว่าขบวนการบีอาร์เอ็น ทำจดหมายเปิดเผยผนึกแฉว่ารัฐบาลได้ให้ประเทศมาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจาปัญหาภาคใต้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียด แต่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร แต่ความจริงคือทำไปด้วยกัน อยู่ที่จะใช้อะไรนำหรือจะเน้นอะไร แต่ฝ่ายทหารจะสร้างความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ และพยายามดูแลไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับคนส่วนใหญ่ให้มีชีวิตที่ปกติ นั่นคือแนวทางการปฏิบัติการทางทหาร ส่วนกลุ่มผู้ก่อการร้ายนั้นก็ใช่มาตรการทางกฎหมายที่ปฏิบัติอยู่

มาตรการระบบการเมือง คือ มิติของการพัฒนาในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา การที่จะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นคือแนวทางการเมือง จะทำให้สถานการณ์หยุดไม่หยุดน้ำหนักนั่นอยู่ที่การเมือง ทำให้เขาพึ่งพอใจได้แค่ไหนอย่างไร ไม่ใช่ใช้การทหารไปปราบปราม ส่วนความหมายของสื่อมวลชนที่เข้าใจว่าการเมืองคือต้องเจรจา ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกรอบของรัฐบาล การจะไปเจรจากับใครในลักษณะที่เขาเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐท่านใดก็ทำไม่ได้ ดังนั้น การเจรจากันน่าจะเป็นแนวเชิงนโยบาย รัฐบาลคงจะต้องเริ่มดูในส่วนนั้นหากจะมี หากถามผมคงเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายไม่ได้ ถ้ารัฐบาลคิดจะดำเนินการคงจะต้องถึงรัฐสภา เพื่อผ่านความเห็นชอบในการที่จะใช้มาตรการดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว