น้ำมันตลาดเอเชียดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 71 ดอลล์ต่อบาร์เรล
ในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ มาอยู่ที่ 71.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายระหว่างวันผ่านตลาดอิเล็กทรอนิกส์สิงคโปร์ หลังจากเมื่อคืนก่อนการซื้อขายในตลาดไนเม็กซ์ปิดตลาดที่ราคา 71.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า หากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเหนือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอาจเป็นตัวชี้วัดว่า สภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากเศรษฐกิจซบเซาอย่างรุนแรง และนับเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่เหล่านักลงทุนก็หันมาซื้อน้ำมันดิบมากขึ้นและเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวตั้งแต่มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนการลงทุนในสินค้าคอมโมดิตี้เกิดขึ้นเนื่องจากนักลงทุนต้องการป้องกันตัวเองจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเงินเฟ้อและเงินดอลลาร์อ่อนค่า
อย่างไรก็ตาม แม้ในขณะนี้อัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับต่ำ และมีบางประเทศเข้าสู่ภาวะเงินฝืดท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่นักวิเคราะห์ยังมีความกังวลว่า เงินก้อนใหญ่จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกานน่าจะมีผลทำให้ราคาสินค้าคอมโมดิตี้เพิ่มราคาสูงขึ้น และผลักดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้
ด้านโรเบิร์ต เพียร-วานเดสฟอร์ด นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสเอชเอสบีซี ในสิงคโปร์ ระบุในรายงานว่า เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่นและจีนน่าจะต่ำกว่า 3% ในเดือนก.ย. นี้และหลังจากนั้นน่าจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 5% จนถึงสิ้นปี และภายในกลางปี 2553 อัตราเงินเฟ้อเอเชียน่าจะอยู่ที่ 6.5% รวมทั้งได้กล่าวเตือนไว้ด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจากราคาอาหารและพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่าตลาดและผู้กำหนดนโยบายได้เตรียมการอย่างพร้อมสรรพสำหรับการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในอัตราที่รวดเร็วหรือไม่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันค้าปลีกในตลาดไนเม็กซ์ส่งมอบเดือนก.ค. ตกลงมา 1.09 เซนต์ มาอยู่ที่ 2.02 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และน้ำมันที่ใช้ทำความร้อน (heating oil) อยู่ที่ 1.84 ดอลลาร์ ก๊าซธรรมชาติส่งมอบเดือนก.ค. ตกลง 1.2 เซนต์ ในราคา 4.08 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิคฟุต ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในลอนดอนอยู่ที่ 71.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากการซื้อขายในตลาดไอซีอี ฟิวเจอร์ เอ็กซ์เชนค์