นักศึกษาวิศวะ ปี 2 แจ้งความจับรุ่นพี่รับน้องโหด ตกดึกสั่ง "กางมุ้ง" โดนทำร้ายแรมปี

นักศึกษาวิศวะ ปี 2 แจ้งความจับรุ่นพี่รับน้องโหด ตกดึกสั่ง "กางมุ้ง" โดนทำร้ายแรมปี

นักศึกษาวิศวะ ปี 2 แจ้งความจับรุ่นพี่รับน้องโหด ตกดึกสั่ง "กางมุ้ง" โดนทำร้ายแรมปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่มีนักศึกษารุ่นพี่ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จัดกิจกรรมรับน้องโหด จนส่งผลให้มีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บผู้ปกครองได้พาเข้าแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุวิทย์ วงศ์ยืน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฯประจำศูนย์สุพรรณบุรี เปิดเผยในประเด็นของการรับน้อง ในมหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้ยังไม่มีข่าวที่ออกมาเรื่องประเด็นการรับน้อง แต่มีในเรื่องการทำกิจกรรมร่วมกันทั่วไปเท่านั้น ในประเด็นในเรื่องการทำกิจกรรมรับน้องที่เกิดขึ้นรุนแรงนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการมีความเห็นอย่างไร เพราะว่าเราก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ส่วนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุนี้เป็นปีไหน ตอนนี้ทราบว่าเป็นรุ่นพี่ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนักศึกษาปีไหนจำนวนเท่าไร

(10 ก.ค.62) เมื่อเวลา 16.30 น. นายจิรัฏฐ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา ปี 2 ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้องเข้าพบ ร.ต.ท.ชณัฎฐ์ แว่นแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.สามชุก เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.สมบัติ อ่อน สมบูรณ์ ผกก.ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เสรี ทองโสภา รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ต.เจษฎาวงศ์ จรัสวรวุฒิกุล สารวัตรสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวน

โดยนายจิรัฏฐ์ ได้เปิดเผยว่าที่มาวันนี้ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนักศึกษารุ่นพี่ปี 3 จำนวน 3 คนที่รุมทำร้ายตนเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา จากสาเหตุการรับน้องที่ตนรับไม่ได้เนื่องจากรุ่นพี่ใช้ความรุนแรง ตั้งแต่เริ่มเปิดเทอมเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนและเพื่อนนักศึกษาปีเดียวกันถูกรุ่นพี่ปี 3 เรียกรวมตัวทำกิจกรรมอบรมรุ่นน้อง ให้รู้จักเคารพครูบาอาจารย์ และรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่การเรียกรวมตัวทำกิจกรรมของรุ่นพี่นั้นจะเรียกช่วงกลางคืนซึ่งเป็นเวลาพักผ่อน

นอกจากนี้รุ่นพี่ยังใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการให้รุ่นน้องกางมุ้ง คือให้ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว จากนั้นก็จะให้นอนกางขา กางแขน ชูมือ ยกศีรษะ ใช้เท้าเตะ ใช้น้ำสาดจนตัวเปียกแล้วให้นอนกลิ้ง ให้คลานไถลตัวไปกับพื้นจนเป็นแผลถลอก และรอยฟกช้ำตามร่างกาย เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ปี 1 ซึ่งตนก็ยอมกระทั่งเทอม 2 ตนคิดว่าถ้ามีการเรียกรวมพลอีกตนก็จะแจ้งตำรวจและช่วงประมาณ 5 ทุ่มได้มีการเรียกรวมพลอีก ตนจึงแจ้งตำรวจเข้าไปเพื่อเป็นการตักเตือนให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ถูก ต่อไปคงไม่กล้าทำอีกตั้งแต่เทอมนั้นเป็นต้นมาก็ยังไม่การเรียกรวมพลอีก

โดยรุ่นปี 1 จะโดนกันนอกรั้วมหาลัย กระทั่งขึ้นปี 2 ได้ 2 อาทิตย์ได้มีการเรียกรวมอีกรอบโดยเรียกไปรวมที่หลังคณะและร่วมกันเตะทำร้ายร่างกายอีกซึ่งตนคิดว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่อยากให้เกิดขึ้นสืบต่อไปถึงรุ่นน้องอีก อยากให้รุ่นน้องที่เข้ามาเรียนได้รับแต่สิ่งที่ดีอยากให้มีคนมาเรียนที่นี่กันเยอะๆ ที่ผ่านมาตนก็ยอมกระทั่งครั้งนี้ ตนจึงไม่เห็นด้วยและไม่อยากเข้าร่วมกลุ่มซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนักศึกษารุ่นน้องไม่มีใครกล้าออกมาเรียกร้อง เนื่องจากกลัวจะถูกรุ่นพี่บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายอีก สำหรับการเรียกรวมกลุ่มนั้นจะตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊ก ให้มาสแตนด์บายรอยังจุดนัดหมายภายในเวลากี่นาที และยังมีการข่มขู่ห้ามบอกผู้ปกครอง

ที่ผ่านมาคนที่เห็นด้วยกับเขาคือคนในกลุ่มของพวกเขาเอง แต่บุคคลภายนอกมีลูกหลานมาเรียนที่นี่ไม่มีใครรู้ ถ้ารู้คงไม่มีใครยอมรับในสังคมแบบนี้ และวันนี้ที่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีก็เพื่อไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับรุ่นน้องและเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ปี 1 ตนเป็นห่วงถ้าเป็นอะไรขึ้นเช่นบาดเจ็บหรือพิการแล้วใครจะรับผิดชอบเราไหว จึงอยากให้ทางสถาบันยกเลิกกิจกรรมรับน้องที่รุนแรงแบบนี้ไม่ให้มีอีกต่อไป ซึ่งตนได้ปรึกษากับบิดาแล้วว่า หลังจากนี้ตนคงไม่เรียนต่อที่สถาบันแห่งนี้อีกเนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ที่ผ่านมารุ่นพี่ที่ร่วมก่อเหตุยังได้โพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่คุกคามตนและเพื่อนๆ อีกด้วย ส่วนสาเหตุที่รุ่นพี่ทำร้ายตนนั้นมาจากรุ่นพี่คิดว่าตนทำให้ระบบรั่ว โดยกล่าวหาว่าตนนำเรื่องการรับน้องไปบอกบุคคลภายนอกและดูแลรุ่นน้องไม่ดีจึงผูกใจเจ็บ

ทางด้าน พ.ต.อ.สมบัติ อ่อนสมบูรณ์ ผกก.สภ.สามชุก กล่าวว่าวันนี้ได้ร่วมหารือกับทางผู้บริหารของสถาบันการศึกษาที่เกิดเหตุและผู้ปกครองเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ร่วมมือกันออกตรวจตราดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ให้กับนักศึกษามาอย่างต่อเนื่องและไม่เคยมีเหตุการณ์กระทั่งมาครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เสียหายประสงค์แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ ตนก็ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานและจะได้เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำภายหลังเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหารุ่นพี่จำนวน 3 คนในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายส่วนที่มีการข่มขู่ทางโลกโซเชียลนั้น ถ้าหากเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถไปไหนได้ก็จะต้องพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook