"มาร์ค" ลุยช่วยหาเสียงทุ่งครุ หนุนกลาโหมแจงงบ-ลดความขัดแย้ง

"มาร์ค" ลุยช่วยหาเสียงทุ่งครุ หนุนกลาโหมแจงงบ-ลดความขัดแย้ง

"มาร์ค" ลุยช่วยหาเสียงทุ่งครุ หนุนกลาโหมแจงงบ-ลดความขัดแย้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อภิสิทธิ์" ลุยช่วยผู้สมัครหาเสียงเขตทุ่งครุ พร้อมเชิญชวนให้ ปชช. ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขณะเห็นด้วยกลาโหมชี้แจงงบประมาณ ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงเขต 24 ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ เพื่อช่วยนายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 12 ที่สวนธนบุรีรมย์และตลาดใหญ่ทุ่งครุ ซอยประชาอุทิศ 61 พร้อมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยได้รับการตอบรับจากประชาชน ที่มาออกกำลังกายและมาจับจ่ายซื้อของในตลาด รวมถึงผู้ค้าขอถ่ายรูปเซลฟี่ ให้ดอกไม้อวยพรตลอดเส้นทาง พร้อมอวยพรขอให้ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรีกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง

อีกทั้ง ประชาสัมพันธ์เดินหน้านโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งการเดินรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ มี พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ เขตบางบอน -หนองแขม(เฉพาะแขวงหนองแขม) นายสากล ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน ร่วมเดินรณรงค์ขอคะแนนเสียงสนับสนุนช่วยนายสาทร และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่าจากการลงพื้นที่ประชาชนตื่นตัวอยากเห็นการเลือกตั้ง เพื่อจะได้นักการเมืองเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เปิดนโยบายจะเปิดนโยบายด้านเศรษฐกิจ อีกครั้งในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการตัดสินใจขณะเดียวกันยืนยันนโยบายพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำได้จริง เห็นได้จากการปฏิบัติ

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เห็นด้วยกับกระทรวงกลาโหม ที่ออกมาชี้แจงขั้นตอนการทำงบประมาณและยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองสามารถปรับลดได้ตามสถานการณ์ โดยไม่ต้องหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองจะเสนอนโยบายก็ถือเป็น สิทธิ์ แต่ต้องอธิบายให้ได้ว่า มีการปรับลดด้วยเหตุผลอะไร ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่จะทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ กระชับมากขึ้น โดยเชื่อว่า กำลังพลที่ไม่ได้ทำงานด้านความมั่นคง สามารถปรับลดได้ และขอให้วางใจว่า พรรคประชาธิปัตย์จะจัดสรรงบประมาณของกองทัพให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะกองทัพยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า การเมืองมีส่วนทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ต้องย้อนกลับไปดูสถานการณ์ปฏิวัติ 2 ครั้งที่ผ่านมา เกิดความขัดแย้งทางการเมือง แต่ไม่ใช่เหตุที่จะบอกว่าการรัฐประหารมีความชอบธรรม และให้มีการสืบทอดอำนาจ เป็นคนละประเด็น ซึ่งตนพูดมาตลอดว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรับผิดชอบ และยอมรับว่ากลไกการเมืองล้มเหลว ทำให้เปิดช่องให้มีการรัฐประหาร

ดังนั้น แนวทางที่จะก้าวพ้น พรรคประชาธิปัตย์เสนอว่าจะต้องเลือกพรรคการเมืองที่เข้าไปบริหารประเทศแล้วไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาเช่นนั้นอีก โดยเฉพาะบทเรียนที่ผ่านมา คือปัญหาทุจริตคอรัปชั่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook