โศกนาฏกรรม 7 ศพ! เขยคลั่งสังหารหมู่แม่ยาย-ญาติเมีย ยิงลูกๆ แล้วฆ่าตัวตาย

โศกนาฏกรรม 7 ศพ! เขยคลั่งสังหารหมู่แม่ยาย-ญาติเมีย ยิงลูกๆ แล้วฆ่าตัวตาย

โศกนาฏกรรม 7 ศพ! เขยคลั่งสังหารหมู่แม่ยาย-ญาติเมีย ยิงลูกๆ แล้วฆ่าตัวตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 00.20 น. (1 ม.ค.62) พ.ต.ท.ลาภ คำพันธ์ สว.(สอบสวน)สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุ ลูกเขยเมาจ่อยิงคู่เขย แม่ยาย กับลูกชายหญิงของตัวเอง พร้อมญาติ ขณะนั่งสังสรรค์เคาท์ดาวน์ปีใหม่ตายยกครัว 6 ศพ แล้วจ่อขมับตัวเองตายตามเป็นศพที่ 7

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียวสองคูหาเปิดเป็นร้านเสริมสวยชื่อ “อ่อนมุกข์” ที่หน้าบ้านมีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหาร กระจัดกระจายไปทั่ว ที่พื้นปูนข้างโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านพบศพทราบชื่อ นายวิจิตร อายุ 50 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่กลางหน้าอก 1 นัด ส่วนที่ห้องโถงภายในบ้านมีศพ นางงุด อายุ 71 ปี นอนตายอยู่บนพื้น ใกล้กันเป็นศพของศพ นางสาวผกามาศ อายุ 47 ปี นั่งตายอยู่บนโซฟา ทั้ง 2 ศพถูกยิงกลางหน้าอก ศพละ 1 นัด ถัดเข้าไปเป็นทางเดินไปยังห้องครัวหลังบ้าน ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องนอน 3 ห้อง ด้านขวาเป็นห้องนอน 2 ห้อง พบศพคนนอนตายอยู่บนช่องทางเดินหน้า ทราบชื่อ นางรัชพร อายุ 50 ปี

ส่วนภายในห้องนอนห้องแรกด้านขวามือ บนเตียงเจ้าหน้าที่พบอีก 3 ศพชื่อ นายสุชีพ อายุ 41 ปี ถูกยิงที่ขมับขวา 1 นัด มือขวากำปืนขนาด 9 มม. บาเร็ตต้า 1 กระบอก ใกล้กันเป็นศพเด็กหญิงชนัญธิดา อายุ 6 ปี ถูกยิงกลางหน้าอก 1 นัด และเด็กชายกษิเดช อายุ 9 ปี ถูกยิงกลางหน้าอก 1 นัด ทั้ง 3 ศพเป็นพ่อลูกกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุตามจุดต่างพบปลอกกระสุนปืน 7 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ภาพงานแต่งงาน นายสุชีพ ผู้ก่อเหตุ และภรรยา

นอกจากนี้ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นายทินกร อายุ 33 ปี ถูกยิงที่หน้าท้องกระสุนแฉลบออกสีข้างด้านขวาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพะโต๊ะกระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาการปลอดภัย แพทย์ให้กลับบ้านได้

จากการสอบสวนนายทินกร ผู้รอดชีวิตให้การว่าตนพร้อมด้วย นางรัชพร อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพี่สาว และนายวิจิตร อายุ 50 ปี พี่เขย ทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาเยี่ยมแม่คือนางงุด อายุ 71 ปี ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 61

นายทินกร ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ

คืนเกิดเหตุช่วงกำลังนั่งดื่มกินสังสรรค์เคาท์ดาวน์ปีใหม่กันในครอบครัวที่หน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ปรากฏว่าได้มีนายสุชีพ อายุ 41 ปี พี่เขย ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน ได้ขับรถยนต์กระบะโตโยตาสีดำสี่ประตูทะเบียน 7 กค 7826 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่โรงเก็บรถข้างบ้าน จากนั้นได้เดินเข้าบ้านด้วยอาการเมาสุรา แล้วเข้ามาหาเรื่องบอกว่า พวกมึงไม่ต้องมองหน้ากู แล้วชักปืนพกออกมาขู่และพูดต่ออีกว่า "กูอยู่ที่นี่กูช่วยทุกอย่าง แต่ไม่มีความดีเลยสักอย่าง ทำไมพวกมึงไม่ชอบหน้ากู"

โดยทั้งสามจึงได้เกิดโต้เถียงกันขึ้น ทำให้นายสุชีพ พี่เขยฉุนจัด เหนี่ยวไกยิงใส่นายนายวิจิตร คู่เขยที่กำลังนั่งอยู่บนม้าหินอ่อน จนตายฟุบลงกับพื้น แล้วหันมายิงใส่ตนถูกที่ท้องจนล้มลงกองกับพื้น ตนจึงแกล้งตาย จากนั้นนายสุชีพ วิ่งไปยิงนางงุด แม่ตนและนางสาวผกามาศ พี่สาวที่นั่งอยู่บนโซฟาจนตาย แล้วไล่ตามไปยิงนางรัชพรที่กำลังวิ่งหนีเข้าห้อง

นายทินกรให้การต่อว่า จากนั้นนายสุชีพพี่เขยตนยังไม่หยุดความบ้าคลั่งวิ่งเข้าไปยิงลูกชายและลูกสาวตนเองที่นอนเล่นเกมมือถืออยู่ในห้องนอน แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับตัวเองฆ่าตัวตาย

สำหรับชนวนเหตุการณ์สังหารยกครัว 7 ศพในครั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายสุชีพมือปืนเคยถูกจับคดียักยอกทรัพย์ในตัวเมืองชุมพร และเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนั้นยังมีประวัติพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.60 แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนภรรยาของนายสุชีพได้หนีไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากทนพฤติกรรมของนายสุชีพไม่ไหว เพราะชอบเที่ยวเตร่ไม่ทำงานเป็นหลักแหล่งชอบยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้นายสุชีพโกรธแค้นและมีเรื่องระหองระแหงกับครอบครัวฝ่ายภรรยามาตลอด และไม่ยอมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และยังข่มขู่คนในครอบครัวฝ่ายภรรยาตลอดเวลาว่าจะฆ่าให้ตายให้หมดทั้งครอบครัว เนื่องจากเข้าใจว่ารู้เห็นเป็นใจให้ภรรยาตนเองหนีไปอยู่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook