รวบ "มนุษย์ป้ามหาภัย" มอมยานักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วฉกทรัพย์ รวมมูลกว่า 3 แสนบาท

วันที่ 6 พ.ย. 61 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ปพนพัชร์ ใบยา รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา
ควบคุมตัว น.ส.อามร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.84/61 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน มาทำการสอบปากคำ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวไว้ได้ ขณะเดินอยู่ที่บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 02.10 น. ของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทราบชื่อคือนายคอสสิโม ตาโต้ (Mr.Cosimo Tato) อายุ 64 ปี สัญชาติอิตาลี
เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่าถูกหญิงไทยจำนวน 2 คนก่อเหตุมอมยาแล้วรูดทรัพย์ โดยนายคอสสิโม เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า
ก่อนเกิดเหตุขณะเดินเล่นอยู่ที่หน้าห้างอเวนิว พัทยาใต้ จู่ๆ มีหญิงไทย 2 คน เข้ามาชักชวนพูดคุยพร้อมกับนำเงินของประเทศอังกฤษออกมาโชว์ให้ดู และอ้างว่ากำลังหาซื้อห้องพักคอนโดมิเนียม
บังเอิญนายคอสสิโม กำลังจะขายห้องอยู่พอดี จึงพาทั้งคู่ไปพูดคุยที่ห้องพักของตัวเอง ซึ่งอยู่บนชั้น 10 ของ "เดอะเบสคอนโดฯ" ถนนพัทยาสาย 2
กระทั่งมาถึง หนึ่งในหญิงไทย ได้ขอให้นายคอสสิโม นำเงินสดของตัวเองไปเก็บไว้ภายในตู้เซฟของนายคอสสิโม เพราะเกรงว่าจะหาย พอนายคอสสิโม หลงเชื่อเปิดเซฟนำเงินของผู้ต้องหาเก็บไว้ หญิงไทยทั้ง 2 คนจึงชักชวนให้ดื่มกาแฟ
กระทั่งดื่มเข้าไปได้ไม่นาน นายคอสสิโม จึงเผลอหลับไปนานนับชั่วโมง ครั้นพอตื่นขึ้นมากลับไม่พบตัวหญิงไทยทั้ง 2 คน เมื่อทำการตรวจสอบทรัพย์สินที่เก็บไว้ในตู้เซฟ
ปรากฏว่าเงินสดสกุลยูโร จำนวน 5,000 ยูโร เงินไทยจำนวน 35,000 บาท และสร้อยคอทองคำที่ซื้อในประเทศอิตาลี ราคาประมาณ 2,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 302,000 บาทได้หายไป และเชื่อว่าหญิงไทยทั้งสองเป็นคนขโมยเอาไป จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา
ต่อมาตำรวจลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
กระทั่งไปเจอตัว น.ส.อามร อายุ 48 ปี ซึ่งมีรูปพรรณใกล้เคียงหนึ่งในผู้ต้องหา เดินอยู่ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการสอบสวน น.ส.อามร ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนที่กำลังหลบหนี ก่อเหตุมอมยารูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีจริง และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มามากกว่า 10 ครั้ง
กระทั่งมาถูกจับกุม นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติย้อนหลังยังทราบอีกว่าผู้ต้องหารายนี้เคยต้องโทษฐานฉ้อโกงทรัพย์ ในท้องที่ สน.ลุมพินี เมื่อปี 2554 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามจับกุมตัวสาวแสบอีกคนที่ยังหลบหนีมาชดใช้กรรมที่ก่อไว้ต่อไป