เก๋งซิ่งเสียหลัก อัด "กำแพงวัด" พังราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่คนขับหายจ้อยไร้เงา

เก๋งซิ่งเสียหลักอัดกำแพงวัดพังราบเป็นหน้ากลอง สุดตะลึงไมล์วัดความเร็วค้างเกือบ 200 กม./ชม.ขณะที่คนขับหายจ้อยไร้เงา
28 ตุลาคม 2561 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทองได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยู 191 ว่ามีเหตุรถยนต์พุ่งชนกำแพงวัดมหาดไทย ต.มหาดไทย อ.เมือง จ.อ่างทอง พังเสียหายจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยวีอาร์อ่างทอง อาสามัครมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง อาสาสมัครร่วมกตัญญูรุดไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบกำแพงวัดซึ่งก่อสร้างด้วยปูนและมีโครงเหล็กดัดอยู่ติดกับถนนสายมหาดไทย-ไผ่ดำ พังเสียหายยาวกว่า 20 เมตร เศษหินเศษปูนกระจายเกลื่อนเต็มถนน
ห่างไปเล็กน้อยพบรถยนต์โตโยต้ารุ่นวีออส สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ษธ-8953 กรุงเทพ ตกไหล่ทางด้านขวามือตรงข้ามกับกำแพงวัด สภาพรถพังยับเยินทั้งด้านหน้าและด้านท้าย หม้อน้ำ เศษชิ้นส่วนเครื่องยนต์กระเด็นออกมานอกรถ
เมื่อตรวจสอบภายในรถพบรอยเลือดตกอยู่หลายจุด และก็ต้องตกตะลึงเนื่องจากไมล์วัดความเร็วรถค้างอยู่ที่ 190 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมากในการใช้ถนนเส้นนี้ที่แคบและเป็นเส้นทางสวนเลนกัน
นายโตก สาดวง อายุ 54 ปี เล่าให้ฟังว่าที่วัดมีงานศพอยู่ ตนเองกับเพื่อนจึงนั่งดื่มเหล้าอยู่เฝ้าศพบนศาลา เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ได้ยินเสียงรถวิ่งมาด้วยความเร็วและมีเสียงตูมดังสนั่นบริเวณกำแพงวัด จึงวิ่งออกมาดูพบว่ารถยนต์ตันดังกล่าวพุ่งชนกำแพงวัดพังไป 4 ช่อง
จึงรีบเข้าไปดูที่รถเพื่อช่วยเหลือคนที่อยู่ในรถแต่พบว่าคนขับลักษณะคล้ายผู้หญิงออกมาจากตัวรถเดินโทรศัพท์ย้อนออกไปทาง ต.บ้านแห จึงตะโกนเรียกให้รอก่อนเพื่อนที่จะช่วยเหลือและตามรถพยาบาลหรือกู้ภัยเพื่อพาไปส่งโรงพยาบาล แต่คนขับรถคันดังกล่าวกลับรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งหายไปตรงโค้งก่อนถึงวัด
ตนจึงรีบให้เพื่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาตรวจสอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาพยายามค้นหาคนขับรถคันดังกล่าว แต่หาไม่พบจึงประสานรถยกนำรถไปไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทอง ก่อนที่จะติดตามตัวเจ้าของรถมาสอบสวนหาตัวคนขับรถรายนี้ต่อไป