ไฟลุกโชน-เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักคนงาน บ้านไม้วอดทั้งหลัง เพื่อนบ้านวิ่งหนีตาย

เมื่อช่วงเช้าตรู่ 4 ตุลาคม 61 ที่ผ่านมา พันตำรวจโทชัยวิชิต มาตรเหลือง สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านพักคนงานภายในท่าทรายที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำชี ใกล้กับวัดอรรถดมมณฑาวนาราม หรือวัดชีซอด เลขที่ 96 หมู่ 14 ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

จึงได้ประสานรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองยโสธร ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้าไปช่วยฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ในวงจำกัด โดยในที่เกิดเหตุภายในบริเวณท่าทราย พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวอย่างรุนแรงท่ามกลางความแตกตื่นของคนงานที่ต่างคนต่างวิ่งหนีออกจากบ้านพักใกล้เคียงเพื่อเอาตัวรอด

เทศบาลเมืองยโสธรต้องระดมรถดับเพลิงถึง 4 คัน เร่งเข้าไปช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ให้อยู่ในวงจำกัดได้เพื่อป้องกันเปลวเพลิงลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีกซึ่งเป็นบ้านไม้สภาพเก่า และอีกด้านก็เป็นโรงซ่อมและปั๊มน้ำมันของท่าทราย

โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แต่เปลวเพลิงก็ได้ลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวจนได้รับความเสียหายทั้งหมด โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

เนื่องจากในขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าว เพราะเจ้าของห้องพักทราบชื่อ คือ นายวิฑูรย์ สาขาเรศ อายุ 41 ปี และนางกุลธิดา สุทธิอาคาร ภรรยา ได้พากันออกจากห้องพักเพื่อขับรถบรรทุกพ่วงบรรทุกทรายไปส่งให้กับลูกค้าตั้งแต่ช่วงเวลา 4 นาฬิกา ที่ผ่านมา

จากการสอบถาม นางพิมฤดี รัชวงศ์ อายุ 44 ปี คนงานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ขณะที่ตนตื่นนอนและได้เดินออกมาหน้าห้องพักซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันตนได้ยิงเสียงดังโป๊ะมาจากในห้องพักที่เกิดเหตุพร้อมกับมองเห็นเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเปลวเพลิงจะลุกลามขึ้นอย่างรุนแรง

เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สภาพเก่าจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจนเปลวเพลิงลุกท่วมบ้านทั้งหลัง กว่ารถดับเพลิงจะเดินทางไปถึงแต่โชคดีที่รถดับเพลิงสามารถฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ได้ทันเวลาก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง อีกที่สำคัญใกล้จุดเกิดเหตุยังมีปั้มน้ำมันของท่าทรายที่อยู่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร

ซึ่งคาดว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยเจ้าของห้องพักอาจจะมีการเสียบปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างทิ้งเอาไว้ ซึ่งต้องรอสอบถามเจ้าของห้องพักอีกครั้ง ส่วนความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงให้ละเอียดอีกครั้งต่อไป