ได้ตัวแล้ว! หนุ่มขโมยรองเท้าตามวัดในเชียงใหม่ เผยชื่นชอบเอาไปสะสม และขายต่อ

จับแล้วหนุ่มลักรองเท้าในวัด สารภาพชื่นชอบรองเท้าสวย ส่วนใหญ่เป็นรองเท้ากีฬา ตระเวนขโมยไปเก็บสะสม บางคู่มีมูลค่าหลายหมื่นบาท ตำรวจแกะรอยจากวงจรปิดและรถจักรยานยนต์ที่เจ้าตัวใช้ก่อเหตุ ย้ำนักท่องเที่ยวและวัดรวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวช่วยดูแลทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวด้วย

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุขโมยรองเท้าของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่วางไว้บริเวณหน้าวิหารวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณบันไดทางขึ้นหน้าวิหารสามารถจับภาพไว้ได้ขณะที่คนร้ายก่อเหตุ

คนร้ายดังกล่าวเป็นชายสวมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อเหตุขโมยรองเท้าของนักท่องเที่ยวที่ถอดวางไว้บริเวณบันได ซึ่งจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เร่งแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของทางวัดที่สามารถบันทึกภาพทั้งรูปพรรณของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ใช้เวลาเพียง 1 วัน ล่าสุดสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว

โดยได้นำตัวนายศศิวัฒน์ อายุ 35 ปี มาสอบสวน เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางเป็นรองเท้ากีฬา และรองเท้าลำลองกึ่งกีฬาที่มีราคาสูงจำนวนหลายสิบคู่ พร้อมกับผู้ต้องหามาดำเนินคดี และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่แตกตื่นมาสอบถามรายละเอียด และชื่นชมการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แม้จะเป็นเรื่องเล็กสำหรับบางคน แต่หากเป็นนักท่องเที่ยวต้องมาเจอกับตัวก็ต้องได้รับความเดือดร้อนประกอบกับปัจจุบันราคารองเท้าบางคู่ที่ผลิตขึ้นมามีราคาแพง เนื่องจากเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเฉพาะ มีราคาแพงหลายหมื่นบาทไปจนถึงบางคู่ที่มีการประมูลกันเป็นหลักล้าน

ทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างการขโมยรองเท้า แต่เมื่อเกิดกับประชาชน และนักท่องเที่ยวก็ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งปัจจุบันรองเท้าเหล่านี้มีมูลค่าแพงเมื่อสูญหายก็ได้รับความเดือดร้อน

อีกทั้งสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งทำงานกันจนได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ยังไม่มีเจ้าทุกข์เป็นผู้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ หากใครทราบข่าวก็สามารถเข้าแจ้งความได้ในท้องที่เกิดเหตุ และขอดูของกลางได้ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

ขณะที่นายศศิวัฒน์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนชื่นชอบรองเท้าสวยๆ เมื่อสบโอกาสจึงมาตระเวนหาตามวัดโดยเฉพาะที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มาขโมยหลายรอบเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเยอะ

โดยจะเลือกเฉพาะคู่ที่ชอบ สบโอกาสก็จะแอบเปลี่ยนรองเท้าบ้าง หยิบใส่ถุงดำหรือกระเป๋าบ้าง ส่วนใหญ่เอาไปเก็บสะสม และบางส่วนก็จะแบ่งขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบรองเท้ามือสอง ซึ่งบางคู่แม้จะเป็นมือสองก็ขายได้ราคาแพง