ลากคอชดใช้-ตำรวจสุรินทร์เร่งตามล่า จยย.ชนเด็ก 3 ขวบล้มปากแตกยังคงลอยนวล

( 6 ก.ย. 61 )  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงความคืบหน้ากรณี ที่ น.ส.ภัทราภรณ์  อายุ 22 ปี และ นายจักรกรฤษณ์ อายุ 22 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้าน บ้านจบกงาม ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน

โดยให้ช่วยนำเสนอข่าว ว่า ด.ญ. พรรณภัทร์ หรือ “น้องฟูม” อายุ 3 ขวบ 9 เดือน  ซึ่งเป็นลูกสาว ถูกรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ไม่ทราบสีและหมวดอักษร ทราบเพียงหมายเลขทะเบียน คือ 7655 สุรินทร์ ชนจน ด.ญ.พรรณภัทร์  ล้มอยู่กลางถนน ได้รับบาดเจ็บที่ริมฝีปากล่างแตกและฉีกขาด เป็นแผลเหวอะเหวะหวะขนาดใหญ่พอสมควร เลือดไหลท่วมตัว รวมทั้งฟันโยก 2 ซี่

เหตุเกิดที่ถนนหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของน้าสาว ระหว่างที่ น.ส.ภัทราภรณ์ แม่ของน้องฟูม ได้พาน้องฟูมไปเล่นที่บ้านของน้าวสาว เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 30 ส.ค.2561 ที่ผ่านมา ก่อนที่แม่ของน้องฟูม จะจูงรถจักรยานยนต์ข้ามถนนมาจอดรอน้องฟูมฝั่งตรงข้าม เพื่อจะออกไปทำธุระต่อ

ระหว่างนั้นน้องฟูมได้เดินข้ามถนนเพื่อจะมาขึ้นรถกับแม่ ขณะเดียวกับรถจักรยานยนต์คันต้นเหตุได้ขับขี่ออกมาจากด้านในหมู่บ้านด้วยความเร็ว ก่อนจะชนน้องฟูมเข้าอย่างจัง  ก่อนที่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวจะจอดดูสักพักและขับหลบหนีไป

จากนั้น ได้นำตัวน้องฟูมไปรักษาตัวและเย็บแผลริมฝีปากล่างด้านในถึง 6 เข็มและข้างนอก 2 เข็ม  ที่ รพ.สุรินทร์  ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ให้ จนท.ตำรวจช่วยติดตามตัวคนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมารับผิดชอบ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 61ที่ผ่านมา 

โดยพ่อแม่ของน้องฟูม ระบุว่า ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ บอกเพียงว่าให้ไปหาหมวดอักษรรถที่ชนมาเอง ซึ่งขณะนี้ครอบครัวของน้องฟูม ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลแล้วกว่า 1 หมื่นบาท และยังไม่ได้เอ็กซเรย์สมองอีกด้วย เพราะไม่มีเงินพอ  จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

พร้อมกับวิงวอนให้ จนท.ตำรวจช่วยรับแจ้งความด้วย เพราะจะต้องนำหลักฐานการแจ้งความไปประกอบ การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเพื่อเอ็กซเรย์น้องต่อไป

จากนั้น เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา น.ส.ภัทราภรณ์ และ นายจักรกรฤษณ์ พ่อแม่ของน้องฟูม ได้เดินทางไปยัง สภ.สุรินทร์ อีกครั้ง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.เชษฏฐ์ สุชา  ไกรแก้วโชติรัตน์  รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ แล้ว โดย พ.ต.ท.เชษฏฐ์ สุชา  ไกรแก้วโชติรัตน์  รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับเรื่องไว้แล้ว พร้อมระบุว่า จะทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไปตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด (6 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว กับ พ.ต.ท.เชษฏฐ์ สุชา  ไกรแก้วโชติรัตน์  รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์  ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งความจากครอบครัวผู้เสียหายแล้ว โดยครอบครัวผู้เสียหายได้นำใบแจ้งความไปมอบให้กับทาง รพ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินการในเรื่องการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้ว 

ส่วนในทางคดี ตนได้ประสานความร่วมมือจาก บริษัทจำหน่ายรถจักรยานยนต์และ สนง.ขนส่งจังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอเอกสารหลักฐานข้อมูลรถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวและ หมายเลขทะเบียน แม้ผู้เสียหายไม่ทราบหมวดอักษรและสีรถก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ที่มีหมายเลขทะเบียน 7655 สุรินทร์ ตามที่ครอบครัวผู้เสียหายระบุ พบว่ามีเลขทะเบียนตรงกันกว่า 20 คัน

ซึ่งจะได้คำชื่อ นามสกุล ที่อยู่และรูปภาพของผู้ครอบครองรถทั้งหมดไปให้ครอบครัวผู้เสียหายและผู้ใหญ่บ้านจบกงามดูเพื่อให้ช่วยยืนยันว่าเป็นบุคคลใดที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ซึ่งหากดูรูปภาพแล้วไม่ใช่ ก็เป็นไปได้ว่า คนที่ขับขี่ในวันนั้นอาจจะยืมรถคนอื่นมาหรือไม่  และถ้าหากมีการยืนยันได้ว่า บุคคลในภาพเป็นคนขับขี่ ตำรวจก็จะออกหมายเรียกตัวเข้ามาสอบสวนทันที

อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด  ส่วนกรณีที่ครอบครัวผู้เสียหายระบุว่า จนท.ตำรวจไม่ได้รับแจ้งความนั้น เป็นการเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนของครอบครัวผู้เสียหาย  เนื่องจากในวันแจ้งความ ครอบครัวผู้เสียหายเข้ามาปรึกษา จนท.ตำรวจ และยังไม่ชัดเจนว่าจะแจ้งความหรือไม่ 

จนข้ามไปอีกวัน ครอบครัวผู้เสียหายก็เดินทางมาที่ สภ.เมืองสุรินทร์อีกครั้ง แต่พบร้อยเวรอีกคน ซึ่งจะต้องรอร้อยเวรคนเดิมเพื่อรับแจ้งความ  แต่อาจจะทำให้ครอบครัวผู้เสียหายเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความดังกล่าว  และ จนท.ตำรวจก็ได้รับแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว