"แอมเนสตี้" ประณามจำคุกนักข่าวเปิดโปงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา ชี้บั่นทอนเสรีภาพสื่อ

"แอมเนสตี้" ประณามจำคุกนักข่าวเปิดโปงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา ชี้บั่นทอนเสรีภาพสื่อ

"แอมเนสตี้" ประณามจำคุกนักข่าวเปิดโปงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา ชี้บั่นทอนเสรีภาพสื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาวทีรานา อัสซัน ผู้อำนวยการฝ่ายรับมือภาวะวิกฤต ของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แสดงความไม่เห็นด้วย หลังจากศาลนครย่างกุ้ง ตัดสินให้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ 2 ราย ได้แก่ นายวะ โลง และนายจ่อ โซ อู ต้องถูกจำคุก 7 ปี จากการเผยแพร่ข้อมูลลับของรัฐบาล เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา

นางสาวทีรานา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ และกระทบต่อเสรีภาพสื่อในประเทศนี้อย่างมาก

"คำพิพากษาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองส่งผลกระทบอย่างมากต่อเสรีภาพสื่อในเมียนมา เป็นการส่งสัญญาณเตือนอย่างหนักหน่วงต่อผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ ในประเทศว่า พวกเขาอาจต้องได้รับผลกรรมร้ายแรง หากให้ความสนใจมากเกินไปกับการปฏิบัติมิชอบของกองทัพ ถือเป็นการทำให้นักข่าวหวาดกลัวและเซ็นเซอร์โดยบังคับ"

ผู้อำนวยการฝ่ายรับมือภาวะวิกฤต ของแอมเนสตี้ รายนี้ บอกอีกว่า การทำงานของนักข่าวทั้ง 2 ราย ได้เปิดเผยความโหดร้ายของกองทัพเมียนมา จึงอยากขอบคุณทั้งคู่ ขณะเดียวกันเมียนมาหาตัวผู้รับผิดชอบต่อการทำร้ายชายโรฮิงญาด้วย 

คำพิพากษาในวันนี้ไม่สามารถปกปิดความจริงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ได้ ต้องขอบคุณการทำงานที่กล้าหาญของนักข่าวอย่าง วะ โลง และจ่อ โซ อู ที่ทำให้โลกได้รับรู้ถึงความทารุณโหดร้ายของกองทัพ แทนที่จะพุ่งเป้าโจมตีผู้สื่อข่าวทั้งสองคน ทางการเมียนมาควรเดินหน้าสอบสวนหาผู้รับผิดชอบต่อการสังหาร การข่มขืนกระทำชำเรา การทรมาน และการเผาบ้านเรือนหลายร้อยหมู่บ้านของชาวโรฮิงญา”  

>> ศาลเมียนมาสั่ง "ขังคุก 7 ปี" 2 นักข่าวเปิดโปงทหาร ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook