ชาวบ้านเดินเท้าจากหมู่บ้านมา อบต. หลังพยายามขอระบบไฟฟ้านานกว่า 20 ปี
วันที่ 7 สิงหาคม 2561 ชาวบ้าน 7 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านชมภูเหนือ บ้างวังแดง บ้านคลองหินฝน บ้านอุดมสุข บ้านคลองน้ำกุ่ม บ้านผาขาม บ้านน้ำดั้น หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กว่า 200 คน
นำโดย นายอุทัย หมื่นสงฆ์ สารวัตรกำนัน ต.ชมพู และนายเชาว์ เย็นฉ่ำ ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ชมพู ได้เดินเท้าออกจากหมู่บ้าน มายัง อบต.ชมพู เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร เพื่อขอความเห็นใจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือการติดตั้งไฟฟ้า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย
แต่ด้วยติดขัดที่ชาวบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทน เพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ให้กับกรมป่าไม้ จำนวน 25 ไร่ ในอัตราไร่ละ 10,960 บาท รวมเป็นเงิน 274,000 บาท
เป็นไปตามระเบียบการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย เพื่อขยายเขตระบบไฟฟ้า โดยวิธีปักเสาพาดสาย แต่ด้วยชาวบ้านยากจน ทำให้ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้
จึงขอให้ทาง อบต.ช่วยเหลือ หรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกในการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน โดยเบื้องต้นชาวบ้านได้ตั้งกองผ้าป่าให้ชาวบ้านช่วยกันบริจาคเงินเป็นค่าปลูกป่าทดแทนในครั้งนี้ด้วย
นายบุญชนะ คลองภูเขียว นายกอบต.ชมพู เปิดเผยว่า ชาวบ้าน หมู่ 3 ตำบลชมพู ได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 30 ปี ไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งปัจจุบันได้รับอนุญาตจากทางป่าไม้และขออนุญาตกับทางไฟฟ้าในการปักเสาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ติดปัญหาเรื่องสัญญาแนบท้ายที่ต้องมีการปลูกป่าทดแทนในบริเวณที่สายไฟฟ้าพาดผ่าน เป็นเงินจำนวน 274,000 บาท ซึ่งตามระเบียบกฎหมาย อบต. ไม่สามารถตั้งงบประมาณจ่ายเงินให้ได้ แต่ อบต.จะทำการตั้งงบประมาณเพื่อสมทบตามรายครัวเรือน แต่อาจได้ไม่มาก
ซึ่งจะต้องเจรจาเพื่อหาทางออกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากไม่สามารถหาข้อยุติได้ทางอบต.ชมพูและชาวบ้าน จะเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก หาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นายอุทัย หมื่นสงฆ์ สารวัตรกำนัน ต.ชมพู กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่บ้าน 3 จำนวน 180 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้นานกว่า 30 ปีแล้ว โดยตลอดเวลาได้พยายามเรียกร้องขอไฟฟ้าใช้
จนล่าสุดทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุมัติให้สามารถขยายระบบไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านได้แล้ว แต่ติดปัญหาเล็กน้อยเพียงต้องจ่ายเงินค่าปลูกป่าทดแทน ซึ่งเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท ที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ได้เนื่องจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวยากจน ไม่มีเงิน แม้พยายามรวบรวมเงินแต่ก็ไม่มากพอ
วันนี้จึงตั้งกองผ้าป่า และออกเรี่ยไรไปตามถนนเพื่อนำเงินไปให้กรมป่าไม้ แต่หากไม่ได้จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อช่วยเหลือให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้เช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย คือท้องถิ่น ไฟฟ้า และป่าไม้ ได้มีมติให้ชาวบ้านระดมเงินหลังคาเรือนละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 90,000 บาท
เพื่อนำไปจ่ายให้กับทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ภายในวันศุกร์นี้ ก่อนนำใบเสร็จไปมอบให้กับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาควังทอง เพื่อดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนต่อไป