สำนักงาน ก.พ. ประสานส่วนราชการ เตรียมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี53

สำนักงาน ก.พ. ประสานส่วนราชการ เตรียมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปี53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ประสานส่วนราชการ เตรียมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ ให้ดำเนินมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ (โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (วันที่ 1 ตุลาคม 2552) นั้น ขณะนี้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) สำนักงาน ก.พ. ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนที่ นร 1008.1/105 ไปยังส่วนราชการ ชี้แจงรายละเอียดมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตลอดจนกำหนดการและขั้นตอน โดยหากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอต่อ คปร. พิจารณาภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ คือ ต้องเป็นข้าราชการที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาทวีคูณ) นับถึงวันก่อนออกจากราชการตามมาตรการฯ (วันที่ 30 กันยายน) โดยครอบคลุมข้าราชการพลเรือนสามัญและข้าราชการพลเรือนในพระองค์ตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการตำรวจ ข้าราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร และข้าราชการธุรการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ ขณะเดียวกันต้องมีคุณสมบัติคือ ผู้ออกจากราชการจะต้องมีเวลาราชการเหลือตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป นับตั้งแต่วันที่ออกจากราชการตามมาตรการฯ ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ ถูกสอบสวนหรือสอบหาข้อเท็จจริงทางวินัย พิจารณาโทษทางวินัย รายงานการลงโทษทางวินัย หรือพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย หรือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท นอกจากนี้ ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการไม่ว่ากรณีใดๆ ตามกฎหมาย และหากเป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการในการไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าระยะเวลาศึกษาดังกล่าว และจะต้องยอมชดใช้เงินตามสัญญาผูกพันที่ได้ทำไว้กับราชการ สำหรับเวลาที่ยังปฏิบัติราชการชดใช้ไม่ครบ ทั้งนี้ ผู้จะได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการตามมาตรการฯ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ยื่นใบสมัครจนถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากราชการ โดยสำนักงาน ก.พ.จะเปิดให้ผู้สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการตามมาตรการฯ ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ในระหว่างวันที่ 16-30 มิถุนายน 2552
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook