สาวจีนกินยาลดความอ้วนติดต่อกัน 7 ปี แต่น้ำหนักกลับพุ่งขึ้น-ร่างขยาย

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. สำนักข่าวประเทศจีนรายงานเรื่องราวของหญิงจีนชื่อ หลิงหลิง (นามสมมติ) วัย 25 ปี ในเมืองอี๋ปิน มณฑลเสฉวน ตัดสินใจเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดกระเพาะอาหาร หลังจากทุ่มเงิน 200,000 กว่าหยวน (ประมาณ เกือบ1 ล้านบาท) ซื้อผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนมากินติดต่อกัน 7 ปี แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นดังฝัน น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นจาก 50 กิโลกรัม เป็น 102 กิโลกรัม เลยทีเดียว

โดยสาวหลิงหลิงเผยว่า หลังจากเธอเริ่มทำงานตอนอายุ 18 ปี เธอก็ใช้เงินเดือนของทุกเดือนราว 2,000-3,000 หยวน (ประมาณ 9,900-15,000 บาท) ไปซื้อผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนมากิน ซึ่งตอนนั้นเธอมีส่วนสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนัก 50 กิโลกรัม แต่เธอยังไม่พอใจรู้สึกว่าตัวเองยังผอมไม่พอ

จนวันหนึ่งเธอได้เห็นโฆษณายาลดความอ้วนตัวหนึ่งทางรายการทีวี เธอจึงตัดสินใจซื้อมากินกับเพื่อน ซึ่งหลังจากกินไป 1 เดือน น้ำหนักของเธอลดลงไป 14.5 กิโลกรัม แต่พอเธอหยุดกิน น้ำหนักของเธอก็เพิ่มกลับขึ้นมา

สาวจีนกินยาลดความอ้วนติดต่อกัน 7 ปี แต่กลับอ้วนยิ่งกว่าเดิม

กระนั้นเธอก็หยุดตัวเองไม่ได้ ยังหาซื้อยาลดความอ้วนมาทดลองกินอีก และบ่อยครั้งที่ยาที่มีอยู่ยังกินไม่หมด เธอก็ซื้อยาตัวใหม่กลับมา แล้วทดลองกินอยู่อย่างนั้นเรื่อยมาจนถึง 7 ปี นอกจากนี้เธอยังลองวิธีลดความอ้วนแบบอื่นด้วย ทั้งฝังเข็ม สปาด้วยเปลวไฟ และอื่นๆ

ทั้งนี้ แพทย์เจ้าของไข้ของเธอกล่าวว่า เพราะความอ้วนยังทำให้เธอมีภาวะในกลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) และโรคไขมันพอกตับ โดยแพทย์ได้วินิจฉัยและผ่าตัดเอากระเพาะอาหารของเธอออก 80 เปอร์เซ็นต์

นายแพทย์หวัง รองหัวหน้าแพทย์แผนกโภชนาการ โรงพยาบาลในเมืองเฉิงตู กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนมี 3 ประเภทต่างกัน อย่างแรกคือมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการไม่อยากอาหาร สองคือควบคุมการเผาผลาญไขมัน และสามเกี่ยวกับการขับถ่าย ซึ่งการกินผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ไม่ได้ให้ผลในระยะยาว และยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินด้วย