ญาติ 13 ชีวิตสูญหายถ้ำหลวง ทำพิธีสักการะเจ้าป่า ขอขมาให้ปล่อยลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการค้นหาเด็กนักเรียนทีมฟุตบอลหมูป่าจำนวน 12 คนอายุ 11-16 ปี และผู้ฝึกสอนอายุ 25 ปี อีก 1 คน ที่ติดถ้ำอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดบริเวณทางเข้าไปยังปากถ้ำแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้หน่วยกู้ภัยและค้นหาติดตามได้สะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ประชาชนทั่วไป ฯลฯ ต่างพากันไปอยู่บริเวณสนามหน้าอาคารอำนวยการวนอุทยานฯ ขณะที่ถนนทางเข้าและออกแออัดไปด้วยรถยนต์ และผู้คนที่ไปดูเหตุการณ์รวมทั้งมีผู้บริจาคอาหาร น้ำดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากท่ามกลางฝนที่ตกโปรยลงมาตลอดทั้ง

ด้าน หน่วยทหารเรือจากกรมรบพิเศษที่ 1 ทหารเรือ หรือ หน่วยซีล ได้นำกำลังชุดแรก 4 นายพร้อมอุปกรณ์ครบครันดำเข้าไปจนผ่านโพรงที่มีน้ำปิดลึกกว่า 5 เมตรและกว้างประมาณ 15 เมตรแล้ว หลังจากที่นักประดาน้ำทั่วไปที่เข้าไปก่อนหน้านี้ไม่สามาถดำผ่านไปได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่พบเด็กๆ จึงทำการดำค้นหาต่อจนไปถึงโพรงที่อยู่ใกล้เคียงกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้พบรอยเท้าของคนอยู่เต็มไปหมดคาดว่าเป็นของกลุ่มเด็กๆ ที่หนีน้ำขึ้นเข้าไปข้างในอีกทำให้หน่วยซีลและหน่วยกู้ภัยอื่นๆ ก็กำลังค้นหากันต่อไปตลอดทั้งวัน

ขณะที่มีการเรียกรถพยาบาล อุปกรณ์ช่วยเหลือ ฯลฯ เอาไว้รองรับด้านนอกอยู่เต็ม ด้านพ่อแม่ผู้ปกครองยังคงปักหลักรอที่เต็นท์ด้านหน้าที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้อยู่เต็ม โดยบางคนถึงขั้นร้องไห้และเป็นลมล้มพับ จนต้องมีการช่วยเหลือกัน

ด้าน บรรดาญาติๆ ของผู้สูญหาย ได้พากันทำเทียนทองเทียนเงิน เพื่อเป็นเทียนมงคลและนำข้าวปลาอาหารแห้งเข้าไปสักการะเจ้าป่าเจ้าของบริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวง จุดที่นักแตะทั้งหมดหายไป เพื่อขอสิ่งศักดิ์โดยเฉพาะเจ้าแม่ดอยนางนอน ตามความเชื่อที่ว่าเด็กอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำอะไรเป็นการล่วงเกินไป ถือเป็นการขอขมาให้มีการปล่อยเด็กทั้งหมดมีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมายังบ้านเกิด

โดย นางธรรม กันทะวงค์ ญาติของนายเอกพล กันทะวงค์ โค้ชผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอล ซึ่งหายตัวไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่า นายเอกพลไม่ได้เป็นโค้ชคนหลักของทีม เป็นเพียงโค้ชสำรอง ซึ่งวันเกิดเหตุหลังจากซ้อมเสร็จได้พากันเข้ามาท่องเที่ยว

ซึ่งเชื่อว่าคงไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปท่องเที่ยวลึกภายในถ้ำ อาจแค่แวะมาเที่ยวเท่านั้น เนื่องจากทางป่าไม้ก็ห้ามอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงเข้าไปลึกขนาดนั้นและหายตัวไป โดยตนเชื่อว่าไม่ได้เป็นการเข้าไปฝึกซ้อมฟุตบอลตามที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊ก

เช่นเดียวกับ น.ส.น้ำหอม บุญเปี่ยม มารดาของ ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านป่าเหมือด ซึ่งสูญหายไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยกล่าวว่าปกติบุตรชายไม่เคยเป็นคนเกเรหรือเถลไถลไปไหนมาไหนจะบอกตลอด โดยเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ จนเข้ามาร่วมทีมฟุตบอลของโรงเรียน

ซึ่งไม่ทราบว่ามาเที่ยวที่ถ้ำแห่งนี้บ่อยไหม แต่คิดว่าไม่น่าจะบ่อยเพราะทุกครั้งไปไหนก็จะบอกทุกครั้ง โดยครั้งนี้ก็บอกว่าไปซ้อมบอลจนมาทราบอีกทีว่าหายตัวไป ทีแรกคิดว่าไปบ้านเพื่อนฟุตบอลด้วยกัน

โดยการฝึกซ้อมฟุตบอลก็ซ้อมที่โรงเรียนบ้าง หมู่บ้านบ้าง ไม่เห็นและไม่ทราบว่าเคยไปฝึกซ้อมในถ้ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งก็อยากให้สิ่งศักดิ์ดลบันดาลให้พบลูกโดยไวและภาวนาให้มีชีวิตอยู่

>> นักฟุตบอลเยาวชน-โค้ช 13 คน หายตัวในถ้ำหลวงฯ เชียงราย ยังหาตัวไม่พบ

>> เจอรองเท้า 13 ชีวิต ทีมฟุตบอลเยาวชน-โค้ช สูญหายในถ้ำหลวง แต่ยังไม่พบตัว

>> ย้อนรอยปี 59 ชายหายตัวปริศนาใน "ถ้ำหลวง" นานเกือบ 3 เดือน