ข้าราชการระดับ 4 สำนักงานเทศบาล โพสต์ระบายความในใจ หลังโดนคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายถึงโต๊ะทำงาน บาดเจ็บสาหัส ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกตามรังควานมาตลอด เพราะไม่ยอมย้ายออกจากงาน
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊ก กฤษ แนบนุช หรือ ส.อ.กฤษฎ์หิรัญ อายุ 46 ปี ชาว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ ระดับ 4 เทศบาลตำบลเสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้โพสต์ข้อความและคลิปวิดีโอว่าถูกทำร้ายร่างกายอย่างป่าเถื่อนในที่ทำงาน กลายเป็นประเด็นที่สังคมออนไลน์ให้ความสนใจ
จากการสอบถามรายละเอียดทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชายไม่ทราบชื่อ บุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ส.อ.กฤษฎ์หิรัญ ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับข่มขู่กรรโชกเอาเงินไปจำนวน 10,000 บาท ระหว่างนั่งทำงานที่ห้องสมุดเอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ ซึ่งเป็นที่ทำงานและอยู่ในส่วนรับผิดชอบของเทศบาลตำบลเสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้เสียหายได้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ โดยแพทย์ให้พักรักษาตัว 2 วัน และจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางใหญ่ เรียบร้อยแล้ว
ส.อ.กฤษฎ์หิรัญ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนบาดเจ็บเกิดจากการถูกทำร้าย เนื่องจากตนเคยถูกบังคับให้ย้ายออกจากพื้นที่ที่ทำงานหลายครั้งแล้วแต่ตนไม่ย้าย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีมือดีมาถูกทุบกระจกรถแตก มีคนร้ายบุกทำร้ายบริเวณสำนักงานเทศบาล
กระทั่งในครั้งนี้ถูกคนร้ายบุกขึ้นไปทำร้ายถึงโต๊ะทำงานที่ห้องสมุดเอื้ออาทร ต.เสาธงหิน พร้อมกับบังคับให้ตนโอนเงินให้ ทราบจากหลักฐานการโอนเงินว่าได้โอนให้ นายโอภาส (สงวนนามสกุล) ขณะที่รูปร่างหน้าตาคนร้ายตนจำได้แม่นยำ
ส่วนอาการบาดเจ็บตอนนี้พบว่าหัวไหล่หลุดเกิดจากการถูกเตะ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัวและคิดว่าชีวิตไม่ปลอดภัยหากต้องไปทำงานอีก ไม่มีใครรับประกันชีวิตและทรัพย์สินในขณะทำงาน เพราะตนนั่งทำงานคนเดียว ไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะถูกทำร้ายอีกเมื่อไหร่
ตนได้เข้าแจ้งความไปแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบปากคำที่ รพ. ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุตนจัดหนังสืออยู่ในห้องสมุด ปรากฏว่าคนร้ายไม่ทราบชื่อ เข้ามาถามหาตนและบอกกับตนว่าจำ เขาได้ไหมว่าเขาเคยมาทำร้ายตนไปแล้วครั้งหนึ่ง
จากนั้นเขาได้ตรงเจ้าทำร้ายตนและขู่จะแทง มีการถามตนว่าไปทำอะไรพี่เขา ซึ่งคนร้ายได้บอกว่าชื่อพี่ของเขา หลังจากนั้นได้ขู่เอาเงินจากตน โดยพาตนเข้าไปในรถและบังคับให้โอนเงินให้ ก่อนที่คนร้ายจะจากไปได้ข่มขู่ว่ารู้จักบ้านตน รู้จักลูกของตนดี คนร้ายต้องการให้ตนไปถอนแจ้งความที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้าด้วย ตนจึงตัดสินใจระบายความในใจทั้งหมดลงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานการโอนเงินไปตรวจสอบ จากนั้นจะเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องอะไรกับคนร้ายดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะทำการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป