วัยรุ่นยืนฉี่ ทำปืนลั่นใส่ลุงไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ บุญจำเริญ สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน

พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายดาวรุ้ง ทองอินทร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้ากลางหน้าอกบริเวณใต้ลิ้นปี่ แพทย์เร่งให้การช่วยชีวิต เจ้าหน้าที่พบนายพัชระ ทองอินทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 8 ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นหลานของนายดาวรุ้ง

และนายวีระศักดิ์ วันทะวงษ์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 8 ต.กระหวัน ซึ่งเป็นคนนำนายดาวรุ้ง ผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลจึงนำตัวมาสอบสวน ตรวจค้นตัวพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 ซุกซ่อนอยู่ที่เอวมีปลอกกระสุนที่ยิงแล้วอยู่ในรังเพลิง 1 ปลอก

กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่นายวีระศักดิ์สวมใส่อยู่ ข้างละ 1 นัด ยาบ้า 1 เม็ด จึงนำนายวีระศักดิ์และนายพัชระไปตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงทั้งสองคน

นายวีระศักดิ์ วันทะวงษ์ ให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ นายดาวรุ้ง ผู้บาดเจ็บซึ่งมีบ้านเกิดอยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่ไปมีครอบครัวอยู่ที่ ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ ได้มาเยี่ยมบ้านที่ ต.กระหวัน หลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จแล้วก็จะกลับไป อ.วารินชำราบ

พร้อมกับชวนตนและนายพัชระไปเที่ยวที่บ้านด้วย ตนจึงตามไปโดยตนพกปืนกระบอกดังกล่าวไปด้วยเพื่อไว้ป้องกันตัว มีนายดาวรุ้งเป็นคนขี่จักรยานยนต์ตนซ้อนกลางและมีนายพัชระซ้อนหลังสุด

มาตามถนนสายโชคชัยเดชอุดมถึงระหว่างสี่แยกการช่าง ต.กระแชงไปบ้านศรีอุดม ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ เป็นจุดใดจำไม่ได้เนื่องจากกลางคืนมืดนายดาวรุ้งได้จอดรถเพื่อปัสสาวะ ยืนเรียงกันปัสสาวะ

ตนมีปืนเสียบไว้ที่เอวด้านหน้าจึงดึงปืนออกมาขณะนั้นปืนเกิดลั่นขึ้นกระสุนถูกนายดาวรุ้งจนล้มลงตนกับนายพัชระจึงช่วยกันนำนายดาวรุ้งส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ แพทย์เห็นว่านายดาวรุ้งอาการสาหัส จึงได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหานายวีระศักดิ์ ว่า ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองและเสพยาเสพติด พร้อมกับแจ้งข้อหานายพัชระว่าเสพยาเสพติด นำตัวเข้าห้องควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป